การทำหน้าอกต้องเปลี่ยนซิลิโคนทุกกี่ปี

การทำหน้าอกต้องเปลี่ยนซิลิโคนทุกกี่ปี

การทำหน้าอก เป็นการผ่าตัดเพื่อนำถุงซิลิโคนหรือถุงน้ำเกลือใส่เสริมเข้าไปที่บริเวณหน้าอก เพื่อช่วยให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือเท่ากันทั้งสองข้าง

หรือให้มีความสวยงาม แก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย หน้าอกเล็ก หน้าอกไม่เท่ากัน หรือเสริมหน้าอกให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ต้องตัดเต้านมออก ช่วยให้ผู้ทำหน้าอกรู้สึกมีความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน

ประเภทของการทำหน้าอกแบ่งวัสดุได้ดังนี้

  1. ซิลิโคนเจล 
  • เป็นซิลิโคนเกรดสำหรับใช้ในการแพทย์ 
  • มีความคงตัวสูง เนื้อซิลิโคนด้านในไม่ไหลออก 
  • มีความยืดหยุ่น นิ่ม และเหนียวมาก 
  • ให้ความรู้สึกเหมือนหน้าอกธรรมชาติ 
  • ใช้ระยะเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดไม่นาน และเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายน้อย 
  • มีให้เลือกหลายขนาด หลายทรง มีทั้งแบบผิวเรียบและผิวขรุขระ 
  1. ถุงน้ำเกลือ 
  • เป็นวัสดุที่มีซิลิโคนอยู่ชั้นนอก และน้ำเกลืออยู่ชั้นใน 
  • ใช้วิธีผ่าตัดเพื่อเอาถุงซิลิโคนเปล่าเข้าไปในเต้านมแล้วเติมน้ำเกลือผ่านหลอดสุญญากาศ หรือใส่ถุงน้ำเกลือที่มีน้ำเกลืออยู่แล้วเข้าไปเลย 
  • ข้อดีคือหากมีการรั่วซึมของถุงก็ไม่เป็นอันตราย 
  • แพทย์สามารถหาจุดรั่วซึมได้ง่าย 
  • สามารถเพิ่มขนาดหน้าอกได้โดยไม่ต้องผ่าตัดใหม่ 
  • ข้อเสียคือฉีกขาดได้ง่ายส่งผลให้เกิดการรั่วซึมได้ รวมถึงมีรอยย่นเกิดขึ้นได้ง่ายจึงดูไม่เป็นธรรมชาติ 
  1. ฉีดไขมัน 
  • การเสริมหน้าอกที่ใช้ไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องหรือต้นขาของผู้ที่ต้องการเสริมหน้าอก
  • ฉีดรอบเต้านมเสริมหน้าอกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
  • เป็นวัสดุที่มีความเป็นธรรมชาติสูง 
  • จำเป็นต้องมีการผ่าตัดเพิ่มเติมเพื่อดูดไขมัน 
  • การอยู่ตัวของไขมันแตกต่างกันในแต่ละบุคคล

ซิลิโคนเป็นวัสดุที่ทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนานมาก โดยขอแบ่งอายุการใช้งานของซิลิโคนออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ถุงซิลิโคน และซิลิโคนเจลที่บรรจุอยู่ข้างใน

  • ถุงซิลิโคนสามารถคงสภาพได้ยาวนานมาก และมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่าอายุคน จึงสามารถใช้งานได้ตลอดชีวิตของผู้ทำหน้าอก
  • ซิลิโคนเจลที่บรรจุอยู่ด้านในก็มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากเช่นกัน อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปอาจจะมีการรั่วของซิลิโคนที่มีอายุการใช้งานไปแล้วประมาณ 10 ปี 
  • อายุของผู้เสริมหน้าอกก็มีผลต่ออายุการใช้งานของซิลิโคนด้วย เพราะเมื่ออายุมากขึ้นกล้ามเนื้อบริเวณที่มีซิลิโคนอาจเสื่อมลงไม่สามารถพยุงน้ำหนักซิลิโคนได้ทำให้ซิลิโคนเลื่อนต่ำลง ส่งผลทำให้ต้องเปลี่ยนซิลิโคนที่ใช้อยู่

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกช่วยให้ซิลิโคนมีอายุการใช้งานได้นานและช่วยให้ผู้เสริมหน้าอกพบสิ่งผิดปกติได้ ดังนี้

  • ใส่บราชนิดไม่มีโครง หรือสปอร์ตบราหลังการเสริมหน้าอกอย่างน้อย 1 เดือน หลีกเลี่ยงการกดทับหรือกระแทกบริเวณหน้าอก จะช่วยให้หน้าอกเข้ารูปและพยุงซิลิโคนให้มีรูปทรงที่เหมาะสม
  • หลังจากผ่าตัดในช่วงแรกไม่ควรทำงานหนัก งดออกกำลังกาย หรือใช้แรงเยอะ 
  • ควรนวดหน้าอกเป็นประจำจะช่วยให้ซิลิโคนเข้าที่และหน้าอกไม่แข็งเพราะพังผืดหดตัว
  • เช็กหน้าอกด้วยตัวเองเป็นประจำและตรวจแมมโมแกรมตามกำหนด

อายุการใช้งานของซิลิโคนอยู่ที่พฤติกรรม อายุ และการใช้ชีวิตของผู้เสริมหน้าอก หากพบสิ่งผิดปกติ เช่นซิลิโคนมีการแข็งตัว หรือรูปร่างของเต้านมเปลี่ยนไป ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ