เชื้อราในช่องคลอดดูยังไง ปัญหารบกวนใจ ที่สาว ๆ ไม่ควรละเลย

เชื้อราในร่มผ้าผู้หญิง เกิดจากอะไร พร้อมวิธีป้องกันอย่างตรงจุด

เรื่องสุขอนามัยภายในจุดซ่อนเร้นของสาว ๆ เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก เมื่อร่างกายส่งสัญญาณเตือนถึงอาการ

คัน อาการระคายเคือง หรือเริ่มมีกลิ่น ห้ามละเลยหรือหายามาสวนล้างช่องคลอดด้วยตัวเองโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอาการที่เกิดขึ้นบริเวณปากช่องคลอด เพราะมีความเป็นไปได้ว่าคุณกำลังติดเชื้อราในช่องคลอด หรือ Vaginal Candidiasis ที่ทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองอย่างรุนแรง ซึ่งก่อปัญหารบกวนใจและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เรามาเกาให้ถูกที่คันกันดีกว่า ว่าโรคนี้เกิดจากอะไร และควรดูแลรักษาให้ถูกต้องด้วยวิธีการใดบ้าง

ห่างไกลจากเชื้อราในช่องคลอด ด้วยความรู้พื้นฐาน โรคนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

ช่องคลอดของเรานั้นมีความสมดุลของความเป็นกรดและด่าง เมื่อใดก็ตามที่เกิดการเสียสมดุลจะก่อให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ รวมไปถึงการเพิ่มจำนวนของเชื้อรา ก่อให้เกิดการติดเชื้อที่เป็นโรคเชื้อราในช่องคลอด ส่วนสาเหตุของการเสียสมดุลของค่ากรดและด่างในช่องคลอด ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับสุขอนามัย ที่บางคนปล่อยปละละเลยมากเกินไปจนเกิดการหมักหมม ส่วนบางคนก็สะอาดมากเกินไปด้วยการล้างทำความสะอาดช่องคลอดบ่อย ๆ ทำให้สูญเสียความเป็นด่าง เชื้อราจึงเจริญเติบโตได้ง่าย

นอกจากนี้ยังมีอาการของโรคบางชนิดที่ส่งผลข้างเคียงทำให้เป็นเชื้อราในช่องคลอด เช่น ภาวะโรคอ้วน ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (HIV) และรวมไปถึงผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ร่างกายของเราแต่ละคนย่อมมีความแข็งแรงไม่เท่ากัน ดังนั้นสาว ๆ บางคนร่างกายอาจไม่แสดงอาการอะไรเลย แม้จะเกิดเชื้อราในช่องคลอดแล้วก็ตาม เพราะฉะนั้นเราจะรู้ได้แน่ชัดต้องหมั่นดูแลจุดซ่อนเร้น และสังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นดังข้อมูลต่อไปนี้

รู้ให้ทันอาการของเชื้อราในช่องคลอด เพื่อการรักษาหายขาดได้เร็ว

ดังที่ได้กล่าวไปว่าในผู้หญิงบางคนร่างกายจะไม่แสดงอาการอะไรเลย แม้จะติดเชื้อราในช่องคลอดแล้วก็ตาม ส่วนในผู้หญิงบางคนแสดงอาการเพียงเล็กน้อยพอคันยุบยิบ แต่สำหรับบางคนก็มีพบว่ามีอาการรุนแรง ดังนั้นเราไปทำความรู้จักอาการที่แท้จริงของโรคนี้กันว่าจริง ๆ แล้วมีอาการอย่างไร

  • มีอาการคัน เริ่มต้นคือจะมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดจากคันยุบยิบพอประมาณ ไปสู่อาการคันแบบรุนแรงที่ไม่เพียงปากช่องคลอดเท่านั้น แต่ลามไปถึงคันภายในช่องคลอดด้วย 
  • มีอาการแสบร้อน เมื่อเริ่มเกิดอาการคันอย่างรุนแรงและยังคงปล่อยทิ้งไว้ อาการต่อมาคือเริ่มมีอาการแสบร้อนทุกครั้งที่ปัสสาวะ และหลังจากมีเพศสัมพันธ์ 
  • มีตกขาว อาการตกขาวจะมีลักษณะคล้ายกับนมบูด คือมีลักษณะเป็นน้ำใส ๆ ผสมกับก้อนขาว ๆ ออกมาจากช่องคลอด
  • เกิดการอักเสบ ที่รุนแรงที่สุดคือจะเกิดอาการบวมแดงที่ปากช่องคลอด จากนั้นจะลามเป็นผื่นแดงตั้งแต่ภายในช่องคลอด จนออกมาที่ภายนอกช่องคลอด และลามไปที่บริเวณหัวหน่าว บางรายกระจายทั่วอวัยวะเพศ จนถึงขาหนีบ

การรักษาอย่างถูกวิธีคือการพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย และรับยาต้านเชื้อราตามที่แพทย์สั่ง ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง รวมไปถึงยาทา ยาสอดต่าง ๆ ด้วย แต่วิธีที่จะทำให้สาว ๆ ห่างไกลจากโรคนี้ได้อย่างยั่งยืนที่สุดคือ รักษาสุขอนามัยของอวัยวะเพศให้สะอาด ไม่สวนล้าง ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น และมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย จะช่วยป้องกันโรคเชื้อราในช่องคลอดและโรคทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ได้