ฟัน เป็นอวัยวะพิเศษที่ออกมาจากเหงือกทำหน้าที่ในการบด เคี้ยวอาหาร โดยตลอดชีวิตจะมีฟันด้วยกันทั้งหมด 2 ชุด ได้แก่ฟันน้ำนมและฟันแท้
ซึ่งฟันน้ำนมจะจะมีอายุการใช้งาน 7-10 ปี โดยประมาณก่อนที่จะหลุดและมีฟันแท้ขึ้นมาทดแทน ในขณะที่ฟันแท้หากดูแลรักษาที่ดีก็อาจจะอยู่ถึงจนสิ้นอายุขัยได้ แต่ถ้าใครดูแลไม่ดีก็จะโดนถอนออกและส่งผลต่อสุขภาพภายในช่องปากได้ การรักษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเมื่อต้องถอนฟันแท้ออก นั่นคือ รากฟันเทียม
รากฟันเทียมหรือที่หลายคนมักจะเรียกว่า ฟันปลอม แต่เป็นฟันปลอมที่มีส่วนประกอบคล้าย ๆ ฟันจริง มีความคงทนและแข็งแรงกว่าฟันปลอมแบบสวม ซึ่งมีส่วนประกอบดังนี้
การทำรากฟันเทียมไม่ใช่ทุกคนจะสามารถทำได้ เพราะในขั้นตอนแรกจะต้องเข้ารับการตรวจและวินิจฉัยจากทันตแพทย์ผู้รักษาเสียก่อน ว่าสามารถใส่รากฟันเทียมได้หรือไม่ เพราะหากใส่ได้จะต้องพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้ประกอบด้วย
การทำรากฟันเทียมถือเป็นการรักษาที่มีความซับซ้อนและใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน จำเป็นที่จะต้องมีการนัดดูผลการรักษาเป็นระยะ ๆ เพราะหากได้รับการรักษาที่ไม่ดีอาจทำให้สุขภาพในช่องปากทั้งหมดได้รับปัญหาได้ เนื่องจากจะต้องมีการเจาะเข้าไปในเหงือกเพื่อให้รากฟันเทียมยึดเกาะกับกระดูกขากรรไกร ดังนั้นควรเลือกทันตแพทย์ที่มีความชำนาญและได้รับการเข้าอบรมการรักษาฟันแบบรากฟันเทียม เพราะใช่ว่าทันตแพทย์ทุกคนจะสามารถทำได้ นอกจากนี้อาจต้องพึ่งศัลยแพทย์ในการตรวจสอบในขั้นตอนผ่าและยึดรากฟันเทียมกับกระดูกขากรรไกรอีกด้วย
ในส่วนของรากฟันเทียมโดยหลัก ๆ จะมีเพียง 2 ส่วนที่ต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอได้แก่ ส่วน Screw ที่ทำหน้าที่รากฟันและ Crown ที่ทำหน้าที่ฟันหรือครอบฟัน ซึ่งในส่วนของการรักษาและทำรากฟันเทียมมีราคาค่อนข้างสูง การดูแลรักษาเอาใจใส่อย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้มีอายุการใช้งานที่นานได้ จากการสำรวจผู้ใช้มากกว่า 90% หากได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 5 ปี ในขณะที่อีกกว่า 80% สามารถใช้งานได้นานถึง 10 ปี ซึ่งเจ้าของรากฟันเทียมจะต้องดูและรักษาความสะอาดอย่างถูกวิธี ระมัดระวังเรื่องการขบเคี้ยว อาหารและมาพบทันตแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้รากฟันเทียมอยู่กับเจ้าของฟันไปนาน ๆ ได้
สำหรับท่านใดที่กำลังมีปัญหาในเรื่องของเหงือกและฟัน ควรเข้ารับการตรวจและรักษาจากทันตแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะให้ฟันแท้อยู่กับคุณไปนาน ๆ แต่ถ้าต้องเข้ารับการรักษารากฟันเทียมจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้ารับการรักษาจากทันตแพทย์ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญด้านนี้เป็นหลัก เพื่อที่จะได้ให้คำปรึกษาและรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสมมากที่สุด