การดูแลฟันผุที่ถูกต้อง

การดูแลฟันผุที่ถูกต้อง

เชื่อว่า “ฟันผุ” เป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความหนักใจให้กับหลายคน เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกปวดฟัน เสียวฟัน และเป็นอุปสรรคเวลารับประทาน

อาหารแล้ว ยังทำให้หลายคนมีปัญหาเรื่องกลิ่นปากจนขาดความมั่นใจไม่กล้าเปิดปากพูดเวลามีคนอยู่ใกล้ อีกทั้งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจลุกลามถึงขั้นฟันผุลึกถึงโพรงฟันเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อักเสบ ฟันโยก หรืออาจร้ายแรงทำให้ระบบร่างกายส่วนอื่น ๆ ติดเชื้อไปด้วย เพราะฉะนั้นเพื่อช่วยให้คนที่กำลังเผชิญกับปัญหาฟันผุจัดการได้อย่างถูกวิธี เรามีวิธีดูแลฟันผุอย่างถูกต้องมาแนะนำกัน 

ทำความสะอาดฟันให้สะอาด

หากสังเกตเห็นว่ากำลังมีปัญหาฟันผุเล่นงาน สิ่งแรกที่ต้องทำคือการทำความสะอาดทั้งฟันและเหงือกให้สะอาดสม่ำเสมอ โดยทั่วไปแล้วมีคำแนะนำให้ทำความสะอาดช่องปากอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น แต่ถ้ามีปัญหาฟันผุควรทำความสะอาดหลังจากรับประทานอาหารด้วย ซึ่งหากไม่สะดวกแปรงฟันให้ใช้น้ำยาบ้วนปากหรือไหมขัดฟันแทนได้

ลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล เน้นผักผลไม้แทน

เหตุผลที่คนกำลังมีปัญหาฟันผุควรลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และเน้นเป็นผักผลไม้ที่มีเส้นใยแทน เนื่องจากฟันผุเกิดจากการที่แบคทีเรียย่อยสลายน้ำตาลแล้วตกค้างบริเวณผิวฟัน ในขณะที่ผักและผลไม้จะช่วยให้มีการผลิตน้ำลายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยชะล้างแบคทีเรียในช่องปากให้น้อยลงด้วย

เคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์

สำหรับอาการเริ่มแรกของปัญหาฟันผุคือ จะเห็นว่าผิวฟันเป็นรู ไม่ราบเรียบ นอกจากนั้นยังอาจเป็นสีเทา ดำ หรือสีขาวขุ่น โดยไม่มีอาการปวดหรืออาการฟันโยก แสดงว่าสารเคลือบฟันกำลังถูกทำลายและสูญเสียแร่ธาตุ แต่ยังไม่ถึงขั้นลุกลามเข้าสู่เนื้อฟัน สามารถเพิ่มแร่ธาตุให้กับฟันได้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องปากที่มีฟลูออไรด์และแคลเซียม หรือแพทย์จะให้อมน้ำยาฟลูออไรด์เพื่อบรรเทาการลุกลาม

อุดฟัน ครอบฟัน เพื่อป้องกันการลุกลาม

ในกรณีที่อาการฟันผุเข้าไปถึงผิวฟันด้านในแต่ยังเหลือเนื้อฟันจะต้องทำการรักษาด้วยการใช้วัสดุสีเสมือนฟันอุด แต่ถ้าฟันผุจนเหลือเนื้อฟันน้อยหรือสุขภาพฟันไม่แข็งแรง ทันตแพทย์จะพิจารณารักษาด้วยวิธีการครอบฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟันที่มีความแข็งแรงแทน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามไปยังฟันซี่อื่น แต่หากมีปัญหาฟันผุลึกลงไปถึงรากฟัน ทันตแพทย์จะดำเนินการรักษารากฟันก่อนจึงจะอุดฟันหรือครอบฟัน

ถอนฟัน

การถอนฟันจะเป็นวิธีการรักษาขั้นสุดท้าย ซึ่งหากทันตแพทย์ประเมินแล้วว่าไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้ผล เนื่องจากถ้าปล่อยไว้จะทำให้เกิดการอักเสบหรือลุกลามจนส่งผลให้ระบบอื่น ๆ ในร่างกายติดเชื้อได้ แต่หากถอนฟันแล้วมีอุปสรรคในการบดเคี้ยวหรือส่งผลต่อบุคลิกภาพทันตแพทย์จะแนะนำให้ใส่ฟันปลอมเพื่อให้การใช้งานกลับมาเป็นปกติ 

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการดูแลรักษาฟันผุที่เรานำมาฝากในวันนี้ อย่างไรก็ตามไม่ควรรอให้มีปัญหาฟันผุแล้วค่อยหาวิธีรักษา เพราะการรักษาฟันมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักหมื่น เรียกว่าเสียทั้งเวลาเสียทั้งเงินโดยไม่จำเป็น ดังนั้นจึงควรไปหาทันแพทย์เพื่อประเมินสุขภาพฟันอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง รักษาความสะอาดช่องปากเป็นประจำทุกวัน และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกปัญหาฟันผุเล่นงาน