มีปัญหากลิ่นปากเรื้อรัง เป็นมานานแก้ไม่หาย รักษายังไงดี ?

มีปัญหากลิ่นปากเรื้อรัง เป็นมานานแก้ไม่หาย รักษายังไงดี

กลิ่นปากเกิดได้จากหลาย ๆ สาเหตุ หากว่าใครมีกลิ่นปากและรู้สึกไม่ดี เบื้องต้นให้เริ่มสำรวจภายในช่องปากของ

ตัวเอง ถ้าเป็นกลิ่นที่เกิดตอนเช้าหรือระหว่างวัน อาจเป็นเพราะทำความสะอาดช่องปากไม่ดีพอ มีเศษอาหารตกค้างตามซอกฟันทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก แต่ถ้าหากว่าเป็นกลิ่นปากเรื้อรัง เป็นมานานและไม่หายเสียที อาจเกิดจากสุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ดี มีฟันผุหรือไม่ก็เหงือกอักเสบ สุขภาพของเหงือกและฟันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดอาการกลิ่นปากเรื้อรัง ต้องพบหมอฟันเพื่อรักษาให้หายขาด

แต่ถ้าปัญหาของกลิ่นไม่ได้อยู่ที่ช่องปาก ไม่ได้มีฟันผุหรือเหงือกอักเสบ ต้องหาทางสำรวจต้นตอให้ลึกลงไปอีก กลิ่นปากเรื้อรังอาจเกิดจากอวัยวะและระบบภายในของร่างกาย ซึ่งเป็นไปได้หลายกรณี คือ

  • สาเหตุจากระบบทางเดินหายใจ 

เป็นไปได้ว่ากลิ่นปากมีสาเหตุจากการเป็น โรคไซนัสอักเสบ โพรงจมูกอักเสบ และที่พบมากที่สุดคืออาการจากต่อมทอลซิลอักเสบ และนิ่วในต่อมทอนซิล ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากแบคทีเรียมากมายรวมตัวกันอยู่ในต่อมทอนซิล ทำให้เกิดการหมักหมมและมีกลิ่นออกมา การเป็นนิ่วในต่อมทอนซิลจะมีสัญญาณบอกคือ เจ็บคอ ระคายคอ เวลากลืนอาหารรู้สึกเหมือนมีก้อนติดคอ ถ้ามีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์

  • ปัญหาของระบบทางเดินอาหาร 

กลิ่นปากอาจเกิดจากกรดไหลย้อน ลองสังเกตตัวเองดูว่ามีอาการแสบร้อนกลางอกด้วยหรือไม่ ถ้าใช่ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นกรดไหลย้อน กรดนี้จะมีกลิ่นเปรี้ยวและอาจส่งกลิ่นออกมาขณะที่เรอหรือพูดได้ นอกจากกรดไหลย้อนแล้ว ยังอาจเกิดจากระบบย่อยอาหารมีปัญหา หลอดอาหาร กระเพาะ ลำไส้เป็นแผล การขับถ่ายไม่ดี ท้องผูก ท้องอืดเฟ้อ ก็ทำให้มีกลิ่นปากได้ 

สาเหตุต่าง ๆ เหล่านี้มีความเป็นไปได้ทั้งหมด แต่โอกาสที่จะเกิดจากระบบทางเดินอาหารนั้นจะน้อยกว่าสาเหตุจากต่อมทอนซิลอักเสบหรือนิ่วในต่อมทอนซิล ดังนั้นถ้าสำรวจเบื้องต้นภายในช่องปากแล้วไม่พบสาเหตุ ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านหู คอ จมูก ปากเพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่เพื่อการรักษาให้ถูกจุด

สำหรับผู้ที่มีปัญหากลิ่นปากจากอาการเบื้องต้นหรือภายในช่องปากนั้น ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เช่นกัน รีบแก้ไขและรักษาสุขภาพปากและฟันที่ดีกันดีกว่า 

  • สุขอนามัยในช่องปาก ทุกคนทำได้
  • ดื่มน้ำมาก ๆ ไม่ควรปล่อยให้ปากแห้ง เพราะจะทำให้แบคทีเรียมีความเข้มข้นขึ้นและเกิดกลิ่น
  • แปรงฟันทุกครั้งหลังจากทานอาหารเสร็จ หรือถ้าอยู่นอกบ้านก็หาโอกาสบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาบ้วนปาก หรือพกหมากฝรั่งชนิดไม่มีน้ำตาลติดตัวไว้เคี้ยวหลังอาหาร
  • แปรงฟันก่อนเข้านอนและหลังจากตื่นขึ้นมา พร้อมกับใช้ไหมขัดฟันทุกครั้ง
  • ทำความสะอาดลิ้นทุกครั้งที่แปรงฟันโดยเฉพาะบริเวณโคนลิ้นด้านในสุดซึ่งเป็นที่สะสมเชื้อโรค
  • งดอาหารที่มีกลิ่นแรง และเครื่องดื่มที่ทำให้มีกลิ่นปาก หรือทานให้น้อยลง 
  • งด หรือเลิกสูบบุหรี่ เพราะทำให้มีกลิ่นปากได้
  • พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันอยู่เสมอ หรือทุก 6 เดือน

กลิ่นปากเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม ควรรีบรักษาให้ถูกจุดจะได้ไม่เป็นปัญหาเรื้อรัง