การผ่าคลอดหรือศัลยกรรมผ่าตัดในการคลอดคือกระบวนการทางการแพทย์ที่นำเอาทารกออกมาจากครรภ์
มารดาด้วยวิธีการผ่าผนังท้องน้อยของแม่ ซึ่งอาจจะต้องกระทำเมื่อมีปัญหาหรือข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ว่ามารดาไม่สามารถให้การคลอดแบบธรรมชาติได้หรือมีความเสี่ยงสูงหรือไม่เป็นไปตามคาดการณ์ หรือปัญหาทางสุขภาพของมารดาที่จำเป็นต้องอาศัยการผ่าคลอด
การผ่าคลอดเป็นกระบวนการทางแพทย์ที่มีความปลอดภัยสูงและถูกดูแลโดยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ แม่ที่จะถูกผ่าคลอดจะได้รับการสนับสนุนและคำแนะนำจากทีมแพทย์เกี่ยวกับขั้นตอนการศึกษา การเตรียมตัวก่อนการผ่าคลอดและการดูแลหลังผ่าคลอดอย่างรอบคอบ
การผ่าคลอดไม่ต่างการจากการผ่าตัดอื่น ๆ ซึ่งมีส่วนทำให้ร่างกายและบริเวณที่เกี่ยวข้องได้รับความบอบช้ำ เพราะไม่เพียงแต่พื้นผิวที่หน้าท้องเท่านั้นที่ได้รับการผ่า แต่หมายถึงชั้นผิวแต่ละชั้นซึ่งอาจมากถึง 5 ชั้น จึงจะสามารถผ่าเข้าไปถึงมดลูกเพื่อนำทารกออกมาได้ จากนั้นจะค่อย ๆ เย็บชั้นผิวแต่ละชั้นเพื่อปิดปากแผลให้สนิท หลังจากนั้นผู้เข้ารับการผ่าคลอดจะต้องฟื้นฟูตนเองให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตที่เป็นปกติได้ จำนวนครั้งที่ทำการผ่าคลอดที่ถือว่าปลอดภัยหรือไม่เป็นอันตรายตามคำแนะนำของแพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำไม่เกิน 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น สุขภาพของแม่และทารก ความเสี่ยงและสภาพร่างกายทั่วไปของแม่ เพราะสภาพหลังการผ่าตัดจะเกิดพังผืดทุกครั้ง ยิ่งผ่าตัดมากเท่าไร พังผืดก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น การผ่าคลอดก็จะเป็นได้ยากขึ้น เนื่องจากพังผืดจะไปยึด ดึง เหนี่ยวรั้งอวัยวะภายในที่อยู่ใกล้มดลูก จึงอาจเป็นอันตรายต่อแม่และเด็กในครรภ์ได้
การผ่าคลอด มีข้อดีและประโยชน์หลายอย่างที่ผู้เป็นแม่สามารถพิจารณาได้ ภายใต้การเลือกทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญโดยเฉพาะ ซึ่งมีข้อดีดังนี้
เหล่านี้ตอบคำถามได้ดีว่าผ่าคลอดกี่ครั้งถึงไม่อันตราย อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นการคลอดลูกด้วยวิธีการแบบใด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของแม่และทารก ดังนั้น การฝากครรภ์แต่ละครั้ง จึงควรฝากกับแพทย์ที่มีความชำนาญการ อาจพิจารณาจากประวัติที่เคยทำคลอดมาก่อนและควรเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ทุกครั้ง เพื่อความมั่นใจและลดความกังวลใจของแม่ลงได้