มะเร็งเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในอวัยวะตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แล้วเจริญเติบโตขึ้นเป็นก้อนเนื้อร้ายที่สามารถลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นที่
อยู่ข้างเคียง และสามารถกระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ภายในร่างกายผ่านทางระบบเลือดหรือระบบทางเดินน้ำเหลืองได้ โรคมะเร็งนั้นมีหลายชื่อเรียก ขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์และตำแหน่งที่เป็นจุดกำเนิดของโรค ซึ่งก็มีอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายที่หลายคนอาจคิดว่าไม่น่าจะเป็นจุดกำเนิดของมะเร็งได้นั่นก็คือ มะเร็งอวัยวะเพศชาย และเราก็มีข้อมูลเกี่ยวกับโรคมะเร็งชนิดนี้มาบอกให้ได้ทราบกันเพื่อที่จะได้รู้ถึงสาเหตุของการเกิดและหาทางป้องกันเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ดังนี้
โรคมะเร็งอวัยวะเพศชายเป็นอย่างไร
ลักษณะเป็นโรคมะเร็งผิวหนังที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณผิวหนังที่ห่อหุ้มตัวอวัยวะเพศชาย และภายในบริเวณอวัยวะเพศชายที่มีเยื่อเมือก ซึ่งก็คือส่วนที่มีผิวหนังห่อหุ้มอยู่เมื่อดึงเปิดขึ้นถึงจะเห็น และบริเวณเนื้อเยื่อส่วนนี้ก็ยังเป็นตำแหน่งที่สามารถเกิดโรคมะเร็งอวัยวะเพศชายได้บ่อยที่สุดด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะตรวจพบในผู้ชายสูงอายุมากกว่า
โรคมะเร็งอวัยวะเพศชายมีแบบไหนบ้าง
1. โรคมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมา พบได้น้อยแต่มีอาการรุนแรงมากกว่ามะเร็งผิวหนังชนิดอื่น ๆ โดยส่วนมากแล้วจะพบได้ในบริเวณชั้นหนังกำพร้าที่ลึกที่สุดของอวัยวะเพศชาย
2. โรคมะเร็งผิวหนังชนิดเบซาลเซลล์ จะมีลักษณะเป็นเซลล์มะเร็ง มีรูปแบบกลมซ่อนตัวอยู่ใต้เซลล์สะความัสเซลล์ในชั้นผิวหนังหรือหนังกำพร้าชั้นล่าง พบได้น้อยเพราะมีอัตราการเกิดโรคนี้ไม่ถึง 2%
3. โรคมะเร็งผิวหนังชนิดสะความัสเซลล์ มะเร็งชนิดนี้จะมีลักษณะเหมือนเนื้อเยื่อ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นบนอวัยวะเพศชายบริเวณใต้หนังหุ้มปลายลึงค์ โดยมีอัตราในการเกิดได้ถึง 95% แต่ถ้าหากพบในระยะเริ่มต้นก็มีโอกาสที่จะรักษาให้หายได้
โรคมะเร็งอวัยวะเพศชายเกิดจากอะไร
ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งชนิดนี้ได้อย่างแน่ชัด แต่สามารถบอกปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคได้ อาทิ
1. เมื่อมีอายุมากขึ้นก็มีโอกาสที่จะเกิดโรคได้สูง โดยผู้ชาย 4 ใน 5 ของผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งชนิดนี้จะมีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป
2. เกิดจากการสูบบุหรี่ เพราะเซลล์ต่าง ๆ ได้รับสารพิษจากควันบุหรี่
3. เกิดจากแสงหรือยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคสะเกิดเงิน
4. เป็นโรคเอดส์
5.หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายตีบ ยากที่จะทำความสะอาดบริเวณส่วนหัวของอวัยวะเพศชาย จนเกิดการสะสมของแบคทีเรียและสารขี้เปียก ที่อาจเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งอวัยวะเพศชายได้
6. ไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ โดยมีการศึกษาค้นพบว่าผู้ที่ขลิบปลายอวัยวะเพศตั้งแต่แรกคลอดมักจะไม่เกิดโรคมะเร็งชนิดนี้ ซึ่งก็มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับเรื่องของสารขี้เปียกที่เกิดจากหนังหุ้มปลายที่ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นต่อส่วนหัวของอวัยวะเพศชาย เมื่อทำความสะอาดได้ไม่ดีพอก็จะเกิดการสะสมจนนำไปสู่การอักเสบติดเชื้อ หรือการระคายเคืองต่อส่วนหัวของอวัยวะเพศชาย ท้ายที่สุดก็เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์จนกลายไปเป็นเซลล์มะเร็งได้
อาการของโรคมะเร็งอวัยวะเพศชาย
สำหรับอาการของโรคมะเร็งอวัยวะเพศชายที่ตรวจพบส่วนใหญ่นั้น จะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อหรือเป็นแผลเรื้อรังบริเวณอวัยวะเพศ และอาจจะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิ อาจจะมีอาการเจ็บแผลหรือไม่เจ็บก็ได้, ลักษณะของแผลคล้ายกับแผลอักเสบ, อาจจะเกิดหนอง มีกลิ่น เลือดออกได้ง่าย และมีอาการบวม แต่ในขณะเดียวกันการแข็งตัวของอวัยวะเพศยังคงปกติอยู่
วิธีการรักษาโรคมะเร็งอวัยวะเพศชาย
สำหรับวิธีที่ใช้ในการรักษานั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิดโรคและระยะของโรค โดยจะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ
– ระยะที่ 1 มะเร็งมีอยู่เฉพาะบริเวณผิวหนังของอวัยวะเพศ
– ระยะที่ 2 มะเร็งเริ่มลุกลามไปยังลำตัวของอวัยวะเพศ
– ระยะที่ 3 มะเร็งเริ่มลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบ
– ระยะที่ 4 มะเร็งเริ่มลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียง
ซึ่งตามหลักของการรักษาแล้วส่วนใหญ่แพทย์จะทำการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด การฉายรังสี และการใช้ยาเคมี ถ้าหากอยู่ในระยะที่ 1 ก็อาจจะรักษาด้วยการผ่าตัดซึ่งก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิดโรคและขนาดของโรคด้วย ส่วนการรักษาในระยะอื่น ๆ ก็มักจะเลือกใช้ 3 วิธีคือ การผ่าตัด การใช้รังสีรักษา และการใช้ยาเคมีบำบัด
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคมะเร็งอวัยวะเพศชาย
สำหรับวิธีการป้องกันเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้นก็ได้แก่ การเลิกสูบบุหรี่, การทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยน้ำอุ่นเป็นประจำทั้งด้านนอกและด้านในหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส, การสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์เพื่อช่วยลดการติดเชื้อเอชพีวี, การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศตั้งแต่แรกเกิดเพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายและช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งอวัยวะเพศชาย