การมีบุตรคือความหวังของหลายครอบครัว แม้ผู้เป็นแม่จะต้องเผชิญกับช่วงเวลายากลำบากตลอด 9 เดือนที่ตั้ง
ครรภ์ แต่หลายครอบครัวก็ตั้งความหวังในเรื่องนี้ทันทีที่เริ่มต้นชีวิตคู่ สิ่งที่มาคู่กับความหวังที่จะมีบุตรคือต้องการภาวะตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย ซึ่งจำเป็นต้องสังเกตสัญญาณอันตรายระหว่างตั้งครรภ์ สิ่งเหล่านี้คุณแม่ไม่ว่าจะมือใหม่หรือผู้เคยผ่านการตั้งครรภ์มาแล้วสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเอง โดยหนึ่งในสัญญาณที่ควรรู้คือภาวะท้องแข็งขณะตั้งครรภ์
• อาการท้องแข็งเป็นอย่างไร เกิดขึ้นจากอะไร
ภาวะท้องแข็งขณะตั้งครรภ์ คือรูปแบบหนึ่งของอาการเจ็บครรภ์ซึ่งจะเกิดขึ้นช่วงไตรมาสสามหรือสามเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ อาการที่พบคือปวดเกร็งบริเวณท้องน้อย และเมื่อจับที่ท้องจะพบว่ามีลักษณะเป็นก้อน ๆ มีอาการตึง โดยในแต่ละวันจะเกิดขึ้นได้หลายครั้ง เกิดขึ้นสักพักก็จะหายไป โดยส่วนใหญ่จะมีอาการในช่วง 15-20 นาที สาเหตุหลักคือการบีบตัวของมดลูกซึ่งเป็นภาวะปกติขณะตั้งครรภ์ แต่ก็มีสาเหตุอื่นอีก เช่น
– คุณแม่เกิดความเครียดหรือเจอกับภาวะอารมณ์ที่กดดัน
– ลูกดิ้นแรงจนกระทบกับผนังมดลูก
– กินอาหารมากเกินไป ทำงานหนักเกินไป หรือพักผ่อนน้อยเกินไป
ได้บอกไปแล้วว่าภาวะท้องแข็งขณะตั้งครรภ์จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสสาม ซึ่งเป็นภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตอาการให้ดี เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังเข้าสู่ระยะคลอดบุตร โดยหากมีอาการเกิดขึ้นตามปกติในแต่ละวัน และอาการนั้นไม่รุนแรง เกิดขึ้นแล้วก็หายไป ไม่มีอาการปวดเกร็งมากขึ้นกว่าเดิม แบบนี้คุณแม่วางใจได้ แต่หากมีอาการปวดมากขึ้น และปวดร้าวไปจนถึงบริเวณหลังและบั้นเอว อาการปวดถี่ขึ้นกว่าที่เคย (เช่นจากเดิมระยะห่างของอาการคือ 15 นาที ลดลงมาเหลือทุก ๆ 5 นาที) แต่ละครั้งเจ็บนานขึ้นต่อเนื่องขึ้น (เช่นมีอาการต่อเนื่องสองสามชั่วโมง) และมีเลือดไหลออกจากช่องคลอด สัญญาณเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเพราะแสดงว่าคุณแม่กำลังเข้าสู่ระยะคลอดบุตร
• เมื่อมีอาการท้องแข็ง ควรทำอย่างไร
เมื่อเกิดภาวะท้องแข็ง สิ่งที่คุณแม่ทำได้ทันทีคือนอนพักสักครู่จนอาการหายไปและสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ โดยให้สังเกตอาการตามคำแนะนำที่เราให้ไว้ก่อนหน้านี้เพื่อดูว่าอาการรุนแรงและถี่ขึ้นหรือไม่ นอกจากนอนพักเมื่อมีอาการแล้ว สิ่งที่คุณแม่ทำได้คือการดูแลตัวเองไม่ว่าจะเป็น หลีกเลี่ยงการทำงานหนักเกินไป ไม่ออกกำลังกายหนักเกินไป รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะทำให้เกิดความเครียด
• สัญญาณอันตรายอื่น ๆ ขณะตั้งครรภ์ที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม
นอกจากภาวะท้องแข็งขณะตั้งครรภ์แล้ว คุณแม่ยังควรสังเกตภาวะอื่นร่วมด้วย เช่นลูกดิ้นน้อยลงหรือไม่ดิ้นเลย อาการตัวบวม ความดันโลหิตสูงขึ้นอย่างผิดปกติ มีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอด ฯลฯ อาการทั้งหมดนี้ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ หากพบว่ามีอาการผิดปกติไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสามของการตั้งครรภ์ หากไม่แน่ใจว่านั่นคือสัญญาณอันตรายหรือไม่ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ไม่ควรปล่อยไว้
การตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยคือความปรารถนาของทุกคนในครอบครัว การได้ทารกที่ปลอดภัยพร้อมกับคุณแม่ที่มีสุขภาพดี คือสิ่งที่ทุกครอบครัวอยากให้เกิดขึ้น นอกจากการฝากครรภ์และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดแล้ว สิ่งที่คุณแม่ควรทำอย่างสม่ำเสมอคือสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและดูแลตัวเองอย่างดี เมื่อเกิดภาวะผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด หากทำได้ตามนี้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อสภาวะอันตรายขณะตั้งครรภ์ได้มากขึ้นอย่างแน่นอน