ไขมันพอกตับ คืออะไร

ไขมันพอกตับ คืออะไร

ไขมันพอกตับเป็นอาการชนิดหนึ่งที่ตรวจพบได้เวลาเราไปตรวจสุขภาพประจำปี ไขมันพอกตับมักไม่ได้แสดง

อาการของโรคที่เป็นอาการเจ็บปวดใด ๆ แต่ไขมันพอกตับเป็นอาการที่นำไปสู่โรคอื่น ๆ ตามมาได้

วันนี้เราจะมาดูกันค่ะ ว่าไขมันพอกตับเกิดจากสาเหตุอะไร อาการเป็นอย่างไร วิธีการป้องกันและรักษา รวมไปถึงความเสี่ยงเรื่องสุขภาพที่เกิดขึ้นจากภาวะไขมันพอกตับที่ควรรวัง

สาเหตุของไขมันพอกตับ

ไขมันพอกตับเกิดจากสาเหตุหลัก ๆ คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำมีโอกาสเป็นไขมันพอกตับเนื่องจากทำให้ตับทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ไขมันพอกตับยังเกิดได้จากการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ หรือเป็นโรคที่เกิดจากไวรัสตับอักเสบ 

อาการของไขมันพอกตับ

หากเป็นไขมันพอกตับในระยะแรกที่ตรวจพบไขมันแทรกอยู่ในตับจากการตรวจสุขภาพประจำปี ยังไม่เกิดเป็นภาวะตับอักเสบก็จะไม่มีอาการอะไร โดยหากตรวจพบว่าเริ่มมีไขมันแทรกในตับควรดูแลรักษาสุขภาพ เลือกรับประทานอาหารและเลี่ยงอาหารบางประเภท เพื่อฟื้นฟูการทำงานของตับไม่ให้มีอาการอักเสบของตับเพิ่มขึ้นจนนำไปสู่การอักเสบที่รุนแรงขึ้น เซลล์ตับถูกทำลายกลายเป็นผังพืด หรือพัฒนาไปเป็นมะเร็งตับในที่สุด ไขมันพอกตับจึงถือเป็นภัยเงียบที่ไม่แสดงอาการแต่ถ้าทิ้งไว้นานก็จะเป็นปัญหาต่อสุขภาพในระยะยาวได้

สำหรับอาการไขมันพอกตับที่พอจะสังเกตได้บ้าง คือมีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ และตึง ๆ บริเวณชายโครงด้านขวา ปัสสาวะสีเข้ม ขาบวม หากมีอาการดังกล่าวขอให้รีบไปตรวจสุขภาพและพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุแต่เนิ่น ๆ

วิธีป้องกันไขมันพอกตับ

สำหรับผู้มีภาวะเสี่ยงเป็นไขมันพอกตับ คือ ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ผู้ที่เป็นโรคอ้วน คนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ผู้ที่ทานอาหารรสหวานหรือดื่มเครื่องดื่มรสหวานเป็นประจำ ดังนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดในการป้องกันไขมันพอกตับมีดังนี้

  • ให้งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 
  • ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมกับเพศและส่วนสูง 
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ 
  • เลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ ให้พลังงานน้อย และมีกากใยมาก เลี่ยงอาหารประเภทแป้ง คาร์โบไฮเดรต อาหารไขมันสูง เน้นโปรตีน ผัก และผลไม้
  • เลี่ยงการทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มรสหวานเป็นประจำ
  • ทานยาตามแพทย์สั่ง 
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ หากพบภาวะไขมันพอกตับแต่เนิ่น ๆ จะได้ดูแลตัวเองได้ทันท่วงที

การตรวจไขมันในตับ

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายท่านเริ่มกังวลในสุขภาพตับของตัวเองว่ามีภาวะไขมันแทรกตับหรือไม่ ขอแนะนำให้ไปทำการตรวจโดยวิธีการตรวจเพื่อทราบว่าตับมีไขมันแทรกหรือไม่ และตรวจการทำงานของตับ ซึ่งตรวจได้หลายวิธีดังนี้

  • ตรวจเลือด
  • อัลตราซาวด์ช่องท้อง
  • ตรวจวัดความยืดหยุ่นของตับ หรือ Fibroscan
  • เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ CT Scan
  • เอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI Scan

โดยการตรวจคัดกรองในเบื้องต้นใช้วิธีเจาะเลือดไปตรวจเพื่อดูค่าต่าง ๆ เป็นการบอกการทำงานของตับ ร่วมกับการอัลตราซาวด์ช่องท้อง หากพบภาวะผิดปกติแพทย์จะสั่งให้มีการตรวจละเอียดด้วยการตรวจสแกนต่อไป

ไขมันพอกตับเรียกว่าเป็นโรคยอดฮิตของคนรุ่นใหม่ที่ถือเป็นภัยเงียบ ด้วยอาหารการกินในปัจจุบันที่มีทั้งอาหารปิ้งย่าง ของมัน ของทอด และยังมีเครื่องดื่มที่มีรสหวานมากมาย ซึ่งหลายคนมักชื่นชอบรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ รวมถึงบางคนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่เป็นประจำ หากยังดำเนินชีวิตแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ดังนั้นจึงควรหันกลับมาใส่ใจดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ