ดวงตานั้นถือเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการใช้ชีวิต ในแต่ละวันคนเราใช้สายตาเพื่อทำกิจวัตรต่าง ๆ โดยหลายกิจกรรมก็อาจทำให้เกิด
อันตรายต่อสายตาจนเกิดเป็นโรคที่เกี่ยวกับดวงตาขึ้นได้ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพดวงตา การละเลยอันตรายที่เกี่ยวข้องกับดวงตา จะส่งผลต่อความผิดปกติในระยะยาว และหากละเลยการตรวจรักษาอาจจะส่งผลร้ายมากกว่าที่คิด ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มีความเจริญก้าวหน้า ทำให้การรักษาอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตาทำได้ด้วยวิธีการเลเซอร์จอประสาทตา ที่ให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และปลอดภัย
เลเซอร์จอประสาทตารักษาโรคใดได้บ้าง
1. วุ้นนัยน์ตาเสื่อม
อาการวุ้นนัยน์ตาเสื่อม จะทำให้มองเห็นเป็นจุดหรือเส้นสีดำคล้ายหยากไย่ ลอยไปมาในดวงตา แม้ไม่ได้ส่งผลร้ายแรงแต่ก็ทำให้เกิดความรำคาญในการใช้ชีวิต การรักษาด้วยการเลเซอร์ก็จะทำให้มองเห็นได้ชัดดังเดิม
2. ต้อหิน
เป็นอาการเสื่อมของเส้นประสาทตาหรือมาจากความดันในตาสูงจนเกิดการกดทับในดวงตา หากปล่อยไว้จนอาการลุกลามจะส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นได้ การเลเซอร์จะช่วยรักษาอาการได้เป็นอย่างดี
3. เบาหวานขึ้นตา
เป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน เกิดจากการที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจนทำให้หลอดเลือดที่ตาเสียหาย หากอาการหนักจะทำให้ร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้ การรักษาด้วยการเลเซอร์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้ผลดี
4. เส้นเลือดอุดตันที่จอประสาทตา
เกิดจากการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ ทำให้การไหลเวียนของเลือดทำงานไม่สะดวก โดยมักมีอาการตามัวข้างเดียวแบบฉับพลัน หากปล่อยไว้นานมีโอกาสสูญเสียการมองเห็นถาวร
ผู้ป่วยจะถูกวินิจฉัยโดยละเอียดจากจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ โดยวิธีการรักษานั้น จักษุแพทย์จะใช้วิธีการหยอดยาขยายม่านตา เพื่อเตรียมความพร้อมของม่านตาก่อนการรักษา หยอดยาชาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บและระคายเคือง หลังจากนั้นในขั้นตอนการรักษา จักษุแพทย์จะใช้เลเซอร์ยิงผ่านไปที่เลนส์ตา ระยะเวลาขึ้นอยู่กับอาการของโรค โดยส่วนมากจะอยู่ที่ 20-30 นาที ต่อการรักษา ซึ่งอาจจะต้องใช้การรักษาหลายครั้งจึงจะหายขาด ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยเอง
ผลข้างเคียงของการเลเซอร์จอประสาทตา
1. ปวดตาหรือแสบตาหลังการรักษา
2. ตามัวชั่วคราว
3. อาจมีภาวะการมองเห็นในที่แสงน้อยลดลง การมองเห็นแคบลง ในผู้ป่วยบางคน
การปฏิบัติตนหลังการเลเซอร์จอประสาทตา
1. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกระทบกระเทือน หลังการรักษาผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงกิจกรรม เช่น เล่นกีฬา ทำงานที่ใช้สายตามาก อย่างน้อยเป็นเวลา 1 เดือน
2. หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีแสงแดดจ้า ฝุ่นละออง ควัน เพื่อป้องกันการอักเสบของดวงตาหลังการรักษา หากต้องออกไปนอกสถานที่ควรสวมแว่นกันแดด
3. ใช้ยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เช่น ยาแก้ปวด ยาหยอดตาลดการอักเสบ เป็นต้น
4. ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินอาการข้างเคียง ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
การปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดหลังการรักษาตาด้วยการเลเซอร์จอประสาทตา เป็นวิธีที่ไม่ทำให้เกิดแผล ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อย หลังการรักษาสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ การเลเซอร์จอประสาทตาจึงเป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดี การละเลยไม่รับการรักษาอาจจะส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร จึงไม่ควรละเลยความผิดปกติทางสายตา