ต้อกระจกตา (Cataract) เกิดจากความผิดปกติของโปรตีนในเลนส์ตาส่งผลให้เลนส์ตาที่เคยใสกลับมีความขาวขุ่นทำให้แสงไม่สามารถผ่านเข้าสู่เลนส์ตา
ได้ตามปกติประสิทธิภาพในการมองเห็นจึงลดลง โดยอาการของต้อกระจกตามีดังนี้
ต้อกระจกตาหากปล่อยไว้ไม่รักษาจะมีความผิดปกติมากขึ้นจนทำให้ตาบอดได้ โดยอาการของต้อกระจกจะมี 4 ระยะด้วยกันดังนี้
ระยะที่หนึ่ง เริ่มมองภาพไม่ชัด ปรับระยะโฟกัสยากขึ้น ค่าสายตาเปลี่ยนไป ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่าเป็นต้อกระจกเพราะดวงตายังดูเป็นปกติ
ระยะที่สอง เลนส์ตาจะเริ่มเป็นสีขาวขุ่น ส่วนใหญ่จะเริ่มจากตรงกลางเลนส์ ผู้ป่วยจะมองเห็นไม่ชัดในที่สว่าง สายตาสั้นมากขึ้น
ระยะที่สาม เลนส์ตาจะขุ่นมากขึ้น เริ่มส่งผลกระทบกับการมองเห็นทำให้การใช้ชีวิตลำบากขึ้น เป็นระยะที่ยังรักษาได้ง่ายจึงควรพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา
ระยะที่สี่ เลนส์ตาขุ่นมากขึ้นกว่าเดิมและเป็นก้อนแข็ง ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นเป็นอย่างมาก หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจนสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร
ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาด้วยยาหยอดตา การรักษามีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี กรณีที่ต้อกระจกยังไม่แข็งมาก สามารถรักษาโดยการผ่าตัดสลายต้อกระจก แต่ในกรณีที่ต้อกระจกถูกทิ้งไว้นานและมีความแข็งมากต้องใช้วิธีผ่าตัดแบบเปิดแผลกว้าง ทั้งสองวิธีนี้เมื่อนำเลนส์ตาที่เป็นต้อกระจกตาออกแล้วจะทำการใส่เลนส์ตาเทียมเข้าไปแทนที่
ต้อกระจกตามักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ แต่คนทุกวัยก็สามารถเป็นได้ โดยมีสาเหตุดังต่อไปนี้
วิธีดูแลรักษาดวงตาเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจกตา ได้แก่
ต้อกระจกตาในระยะเริ่มแรกยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ กรณีที่มองเห็นไม่ชัดสามารถแก้ไขได้โดยการใส่แว่นตาตามค่าสายตา แต่เมื่อมีอาการมากขึ้นควรพบแพทย์เพื่อทำการผ่าตัดต่อไป