ถ้าหากเราเป็นตกขาว วิธีดูแลช่องคลอดที่ถูกต้องทำอย่างไร?

ถ้าหากเราเป็นตกขาวการดูแลช่องคลอดที่ถูกต้อง

การมีตกขาวมากเกิน เป็นอะไรที่น่ารำคาญใจสำหรับผู้หญิง นอกจากไม่สบายตัวแล้ว ยังเป็นกังวลอีกด้วยว่า มีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นภายในช่องคลอดหรือไม่

จะมีวิธีดูแลสุขอนามัยภายในอย่างไรไม่ให้ตกขาวเป็นเรื่องร้ายแรง

ผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือน ฮอร์โมนเพศหญิงจะเปลี่ยนแปลงไป ความเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้สารคัดหลั่งที่ระบบสืบพันธุ์สร้างขึ้นซึ่งเรียกกันว่า ตกขาว มีปริมาณแตกต่างกันไปด้วย ช่วงที่มีประจำเดือน ฮอร์โมนเพศสูง ปริมาณตกขาวจะมากกว่าช่วงอื่น การตั้งครรภ์ก็มีผลให้ปริมาณตกขาวมีมากเช่นกัน เพราะเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนนั่นเอง 

นอกจากนี้ สาเหตุอื่นของการมีตกขาวมากก็คือ การใช้ยาคุมกำเนิด การกระตุ้นทางเพศสัมพันธ์ ความวิตกกังวล ความเครียด แต่สาเหตุเหล่านี้ไม่ได้ถือเป็นความผิดปกติแต่อย่างใด เมื่อผู้หญิงมีอายุมากขึ้นหรือเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ตกขาวจะลดน้อยลง

ตกขาวแบบไหนที่น่าตกใจ บอกความผิดปกติภายในช่องคลอด

  • ตกขาวข้นเหนียว 
  • สีเหลืองค่อนไปทางเขียว หรือมีสีออกเทา
  • เป็นก้อนหรือเป็นชิ้นเล็ก สีขาวขุ่น 
  • ตกขาวมีปริมาณมากผิดปกตินานต่อเนื่องเกิน 10 วัน
  • ตกขาวเป็นมูกเลือด สีออกแดงหรือน้ำตาล 
  • ตกขาวมีฟอง และกลิ่นเหม็น 
  • มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คัน ระคายเคือง แสบร้อนบริเวณช่องคลอด ปวดท้อง ปัสสาวะขัด

แต่ก็อย่าเพิ่งตกใจมากจนเกินไป ความผิดปกติของตกขาวอาจไม่ได้มีอันตรายร้ายแรง และป้องกันได้ เรามาดูกันว่า อะไรทำให้ตกขาวเปลี่ยนไปจากปกติเพื่อหาวิธีหลีกเลี่ยงกัน

  • การติดเชื้อแบคทีเรีย 

เชื้อแบคทีเรียอาจเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ หรือการใส่ห่วงอนามัยคุมกำเนิด การใช้ยาปฏิชีวนะบางอย่างก็ทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียได้ สังเกตได้จากตกขาวเป็นสีเหลืองออกเขียว มีกลิ่นเปรี้ยว หรือเป็นฟอง 

  • มีเชื้อราในช่องคลอด

เกิดจากความอับชื้น ใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไปในขณะที่อากาศร้อน มีเหงื่อออกมาก 

  • มีสิ่งแปลกปลอมที่ระคายเคืองต่อช่องคลอด

มักจะเป็นของใช้ใกล้ตัว เช่น เศษกระดาษทิชชู ผ้าอนามัยแบบสอด ห่วงคุมกำเนิด 

  • มีเนื้องอกในมดลูก

ทั้งชนิดร้ายแรงและไม่ร้ายแรง 

ดูแลช่องคลอดอย่างถูกวิธี 

ผู้หญิงควรรักษาสุขอนามัยภายในช่องคลอด เพื่อเป็นการป้องกันตกขาวผิดปกติโดยการ;

  • ล้างภายนอกช่องคลอดด้วยน้ำ ใช้สบู่หรือน้ำยาที่อ่อนโยนเป็นพิเศษ น้ำเกลือก็ใช้ได้ แต่ไม่ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ เพราะช่องคลอดมีความบอบบาง 
  • ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีสวนล้างช่องคลอด หรือผลิตภัณฑ์เฉพาะที่เพื่อทำความสะอาดภายใน 
  • หลังจากล้างทำความสะอาดทุกครั้งควรซับน้ำให้แห้งก่อนใส่เสื้อผ้า การซับน้ำหรือเช็ดทำความสะอาด ควรเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง
  • ระมัดระวังไม่ให้เกิดความอับชื้นบริเวณช่องคลอด ใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศดี ไม่รัดแน่น ไม่ควรใช้ผ้าอนามัยแผ่นบางตลอดทั้งวันเพราะอาจมีเชื้อราสะสม 
  • ไม่ใช้ผ้าอนามัยที่มีน้ำหอมเพื่อป้องกันการแพ้หรือระคายเคือง
  • ฉีดพ่นโถสุขภัณฑ์เวลาเข้าห้องน้ำสาธารณะ แม้แต่ห้องน้ำที่บ้านก็ควรทำความสะอาดเสมอ

นอกจากดูแลช่องคลอดแล้ว ผู้หญิงทุกคนควรใส่ใจในเรื่องของสุขภาพโดยรวม การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ทานอาหารหมักดอง ไม่สูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ และอย่าลืมตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี