การอาบน้ำคือสิ่งที่เราทำเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะกับเมืองไทยซึ่งเป็นเมืองร้อน คนส่วนใหญ่อาบน้ำวันละสอง
ครั้ง (เมื่อตื่นเช้าและก่อนเข้านอน) แม้ว่าการอาบน้ำจะดูเป็นเรื่องปกติที่เราทำเป็นประจำจนดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามีความเข้าใจผิดอย่างน้อย 4 ข้อที่คุณอาจเป็นหนึ่งในคนที่กำลังเข้าใจผิดอยู่ ฟังดูน่าสนใจใช่หรือเปล่า ถ้าอยากรู้ เราไปหาคำตอบเรื่องนี้พร้อมกันดีกว่า!
แท้จริงแล้วน้ำอุ่นและน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำที่ค่อนข้างเย็นต่างก็มีข้อดีเป็นของตัวเอง เราจึงไม่ควรอาบน้ำแค่ประเภทหนึ่งโดยละเลยอีกประเภท การอาบน้ำอุ่นช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดความเครียดสะสม ช่วยปรับอุณหภูมิของร่างกาย ทำให้หลับสบาย แต่ก็มีจุดด้อยคือดึงความชุ่มชื้นจากผิว เพราะการอาบน้ำอุ่นทำให้ผิวสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ จึงควรอาบน้ำอุ่นในช่วงกลางคืน และไม่ควรอาบหลังออกกำลังกายซึ่งร่างกายเสียเหงื่อมากอยู่แล้ว
ส่วนน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำที่ค่อนข้างเย็น เหมาะอย่างยิ่งที่จะอาบตอนเช้า โดยเฉพาะการอาบน้ำหลังตื่นนอนเพื่อเตรียมตัวออกไปทำงาน เพราะน้ำเย็นช่วยให้ร่างกายสดชื่น ให้ความรู้สึกตื่นตัว นอกจากนี้ยังทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรเลี่ยงการอาบน้ำเย็นเมื่อร่างกายอ่อนแอจากอาการป่วย
นี่คือสิ่งที่เราเชื่อว่าหลายคนรู้สึก เพราะเมื่ออาบแล้วมีฟองมาก ก็เชื่อว่าสิ่งสกปรกจะหมดไปด้วย แต่รู้หรือไม่ว่ายิ่งเจลหรือครีมอาบน้ำมีฟองมากเท่าไหร่ ก็แปลว่ามีสารเคมีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งสารเคมีที่บางชนิดอาจทำลายผิวคุณในระยะยาวได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว คุณจึงควรเลือกเจลอาบน้ำที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก แม้ว่าจะไม่ได้มีฟองมากแต่ถือว่าปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิวคุณ
ใยขัดผิวมีทั้งแบบที่เป็นใยธรรมชาติ (เช่นใยบวบขัดผิว) และใยจากพลาสติก การขัดผิวสามารถทำได้ แต่ไม่ควรทำนานเกินไปต่อการอาบน้ำหนึ่งครั้ง และไม่ควรขัดผิวแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวอักเสบ ที่สำคัญคือต้องเปลี่ยนใยขัดผิวเป็นประจำ โดยใยพลาสติกควรเปลี่ยนทุก ๆ สองเดือน ส่วนใยธรรมชาติควรเปลี่ยนทุกเดือน เรื่องนี้นำไปปรับใช้กับการเช็ดตัวหลังอาบน้ำได้ด้วย โดยไม่ควรเช็ดผิวแรงเกินไป และควรซักทำความสะอาดผ้าเช็ดตัวอยู่เสมอเพื่อไม่ให้เป็นที่สะสมของแบคทีเรียและเชื้อโรคซึ่งจะย้อนกลับมาทำร้ายผิวคุณ
นี่คืออีกหนึ่งความเข้าใจผิดของหลาย ๆ คน อาจเป็นเพราะเวลาอาบน้ำทำให้เรารู้สึกมีความสุข แต่รู้หรือไม่ว่าการอาบน้ำนานเกินไปจะทำให้ผิวเสียได้โดยเฉพาะผิวจะถูกดึงความชุ่มชื้นออกไป จึงมีผู้แนะนำว่าไม่ควรอาบน้ำนานเกินสิบนาที ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำฝักบัวหรือแช่ในอ่างอาบน้ำ
การอาบน้ำ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ไม่มีอะไรต้องใส่ใจ แต่เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ คุณก็คงรู้แล้วว่ายังมีหลายเรื่องที่เข้าใจผิดกันอยู่ คุณคือหนึ่งในคนที่เข้าใจผิดกับเรื่องเหล่านี้อยู่หรือไม่ หากใช่ เราก็เชื่อว่าข้อมูลที่นำมาให้ในวันนี้จะช่วยแก้ความเข้าใจผิดของคุณได้ และช่วยให้คุณดูแลผิวได้ดีขึ้นในทุกครั้งที่อาบน้ำ