แคลเซียม ขาดตอนไหน เลือกทานอย่างไรดี

แคลเซียม ขาดตอนไหน เลือกทานอย่างไรดี

แคลเซียม สำคัญต่อร่างกายของคนเราอย่างมาก เพราะเป็นตัวช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ดี ช่วยปรับสมดุล

ความดัน ช่วยให้ฟันแข็งแรงและไม่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน การขาดแคลเซียมจะส่งผลต่อร่างกายหลายอย่าง อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติขึ้นได้ อาการที่บ่งบอกว่าร่างกายของเราขาดแคลเซียมก็คืออาการเวียนศีรษะ มักเป็นตะคริวบ่อย ๆ รู้สึกชาที่ใบหน้า มือ และฝ่าเท้า ทรงตัวไม่ค่อยได้ อารมณ์แปรปรวน และยังอาจมีอาการที่สังเกตได้จากเล็บที่หักง่าย อาการปวดฟันบ่อย เป็นต้น

การขาดแคลเซียมเกิดขึ้นตอนไหนได้บ้าง

คนเราขาดแคลเซียมได้ตลอด โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องอายุมาก เพราะสาเหตุที่ร่างกายขาดแคลเซียมนั้นมีหลายอย่าง เช่น เกิดจากพันธุกรรม ขาดสารอาหาร รวมถึงการใช้ยาบางประเภท การสูบบุหรี่จัด และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ เครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม และอาหารรสเค็มจัดก็ทำให้เกิดอาการขาดแคลเซียมได้เร็วขึ้นด้วย

ผลที่ตามมาจากการขาดแคลเซียม

หากว่าอาการที่กล่าวข้างต้นเริ่มรุนแรงมากขึ้น จะนำไปสู่ภาวะกระดูกพรุนและเสี่ยงต่อการที่กระดูกจะหักได้ง่าย ฟันหลุดเร็วขึ้น รวมถึงอาการปวดหลัง ปวดข้อ อาการชาจะเริ่มลุกลามไปที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมากขึ้น และเกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุกมากขึ้น เนื่องจากแคลเซียมเป็นตัวช่วยสำคัญในระบบประสาทและการส่งสัญญาณจากสมองไปยังกล้ามเนื้อ ซึ่งปัญหาในจุดนี้จะยังไม่ซีเรียสมากหากเกิดกับกล้ามเนื้อทั่วไป แต่ถ้าเมื่อไรที่อาการเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อหัวใจหรืออวัยวะสำคัญจะมีอันตรายมากและเสี่ยงกับการเสียชีวิตได้

ป้องกันภาวะขาดแคลเซียม เลือกทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงจากธรรมชาติ

ภาวะขาดแคลเซียมสามารถป้องกันได้โดยเริ่มจากวิธีธรรมชาติ คือการเดินออกกำลังกาย ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินคือตอนเช้าภายใต้แสงแดดอ่อน ๆ ร่างกายจะได้รับวิตามินดีช่วยดูดซึมแคลเซียมให้ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น นอกจากการเดินออกกำลังแล้ว ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีปริมาณแคลเซียมสูง ได้แก่ นม ผลิตภัณฑ์จากนม ธัญพืชต่าง ๆ เช่น ถั่ว งาดำ งาขาว ปลาตัวเล็ก กุ้งตัวเล็กหรือสัตว์ที่รับประทานกระดูกได้ด้วย ผักใบเขียว ผลไม้หลากชนิด

เลือกทานแคลเซียมเสริมอย่างไรดี

การรับประทานแคลเซียมเสริมเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันการขาดแคลเซียมได้ แต่จะต้องเลือกทานให้ถูกวิธี ดังนี้

  • เลือกแคลเซียมชนิดที่ดูดซึมได้ดี หากดูดซึมไม่ดีนอกจากไม่ได้ประโยชน์แล้วจะทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • เลือกทานแคลเซียมชนิดที่มีวิตามินดีผสม เพื่อช่วยให้การดูดซึมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรือทานแคลเซียมคู่กับวิตามินดีแยกต่างหากก็ได้เช่นกัน
  • การทานแคลเซียมควรให้อยู่ในปริมาณที่พอดี ถ้ามากเกินไปจะทำให้เกิดหินปูนสะสมในอวัยวะสำคัญของร่างกายและทำให้เกิดโรค เช่น นิ่วในไต หินปูนในเต้านม เป็นมะเร็งเต้านม หินปูนในหลอดเลือด หลอดเลือดตีบตัน ปริมาณที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 1500 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ไม่ควรทานแคลเซียมร่วมกับ ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยาลดความดันบางประเภท เพราะแคลเซียมจะไปขัดขวางการออกฤทธิ์ของยา

เพื่อความปลอดภัยในการเลือกแคลเซียมเสริมควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน และอย่าลืมว่าแคลเซียมจากธรรมชาติ การรับประทานอาหารประจำวันที่มีแคลเซียมสูง คือทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอ