หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทคือ?  และรักษาอย่างไร ?

อายุกับความสมบูรณ์ของร่างกายสวนทางกันเสมอ เมื่ออายุเพิ่มขึ้นร่างกายก็จะเสื่อมถอยลง ความเสื่อมสภาพของอวัยวะในร่างกายที่บ่งบอกออกมาได้

ชัดเจนอย่างหนึ่งก็คือหมอนรองกระดูกเสื่อมทำให้เกิดโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่งเราจะรู้ได้เมื่อมีอาการปวดสะโพก เอว ไปถึงขา 

เมื่อหมอนรองกระดูกเสื่อมจะเป็นอย่างไร

หมอนรองกระดูกมีหน้าที่รองรับกระดูกสันหลัง กลไกการทำงานของหมอนรองกระดูกต้องอาศัยน้ำที่อยู่ภายในเป็นตัว Support ให้หมอนรองกระดูกมีความยืดหยุ่นเปรียบเสมือนนุ่นที่อยู่ในหมอนนั่นเอง เมื่อหมอนรองกระดูกเสื่อมผนังภายนอกปริแตก น้ำที่อยู่ในหมอนรองกระดูกก็จะไหลออกมาเรื่อย ๆ และเหลือน้อยลงทำให้ความยืดหยุ่นน้อยลงจนรองรับกระดูกได้ไม่ดี 

ส่วนโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทก็คือ น้ำจากหมอนรองกระดูกไหลไปถูกเส้นประสาททำให้รู้สึกปวดไม่ว่าจะไหลไปถูกเส้นประสาทเส้นใดก็จะปวดไปตามแนวของเส้นนั้น ๆ ลักษณะของอาการปวดจึงไม่เจาะจงจุดใดจุดหนึ่ง แต่ผู้ป่วยจะรู้สึกร้าวไปทั่วบริเวณสะโพก ต้นขาด้านนอก ลามไปถึงข้อเท้าด้านนอก อาจมีอาการชาบางครั้ง และมีความผิดปกติของระบบขับถ่ายร่วมด้วยถ้าอยู่ในขั้นรุนแรง ผลที่ตามมาจากโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทไม่ได้รับการรักษาก็คือกระดูกสันหลังจะเสื่อมไปด้วย ทำให้ขาอ่อนแรง กล้ามเนื้อขาลีบเล็กลง ในระยะยาวอาจเดินไม่ได้อีกต่อไป

ความเสื่อมของหมอนรองกระดูกเกิดขึ้นตามกาลเวลาก็จริง แต่จะถูกซ้ำเติมให้เสื่อมเร็วขึ้นถ้าคนเราไม่ดูแลสุขภาพ การปล่อยให้น้ำหนักตัวมากเกินเกณฑ์ อ้วนลงพุง จะทำให้หมอนรองกระดูกต้องรับน้ำหนักมากกว่าปกติ รวมถึงความไม่ระมัดระวังในการเคลื่อนไหวร่างกายจะทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมเร็วเช่นกัน

การเคลื่อนไหวร่างกายที่ควรระวัง

อิริยาบถต่าง ๆ ในแต่ละวันที่จะทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมง่ายขึ้นก็คือ

• ก้ม ๆ เงย ๆ โดยไม่ระมัดระวัง
• ก้มยกของหนักบ่อยครั้ง
• นั่งนานเกินไปไม่เปลี่ยนอิริยาบถ
• สะพายกระเป๋าหนักข้างเดียว
• ใส่รองเท้าส้นสูงยืนและเดินเป็นเวลานาน
• นอนในท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป เช่น นอนคว่ำ นอนตัวงอ นอนเอนหลังนาน ๆ
• ถูกกระแทกโดยอุบัติเหตุที่บริเวณกระดูกสันหลัง

นอกจากนี้พฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง เช่น ไม่ยอมออกกำลังกาย สูบบุหรี่จัด ทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมง่าย การสูบบุหรี่ที่หลายคนมองว่าไม่น่าเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกตรงไหนเลยนั้น จริง ๆ แล้วมีผลมากเพราะการสูบบุหรี่ทำให้ออกซิเจนในร่างกายลดลงจึงไม่เพียงพอต่อการไปเลี้ยงหมอนรองกระดูกนั่นเอง

รักษาแต่เนิ่น ๆ อย่าปล่อยให้หมอนรองกระดูกเสื่อมนาน

เมื่อเริ่มมีอาการปวดชาในลักษณะที่กล่าวไปแล้ว ค่อนข้างแน่ใจได้ว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการอีกครั้งและรีบรักษา การรักษาในเบื้องต้นแบ่งเป็น 2 วิธี คือให้ยาประเภทยาต้านการอักเสบหรือยาคลายกล้ามเนื้อ และการทำกายภาพบำบัด โดยในระหว่างที่ทำการรักษาผู้ป่วยสามารถที่จะบำบัดตนเองที่บ้านด้วยการประคบร้อน ออกกำลังกาย บริหารหลังเบา ๆ ร่วมกับการปรับท่าทางการยืน นั่ง เดินให้ถูกต้อง อาจใช้เสื้อพยุงหลังช่วยประคองไว้

เป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทต้องรีบรักษาเพื่อไม่ให้อาการปวดเพิ่มมากขึ้นและทวีความรุนแรงจนอาจถึงขั้นต้องผ่าตัด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนั้นอย่างแน่นอน