โรคถุงลมโป่งพองเป็นอันตรายและทำให้ใช้ชีวิตประจำวันลำบากขึ้น เนื่องจากเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่หายขาด จากการที่เนื้อปอดเสียหายแล้วไม่สามารถ
รักษากลับมาเป็นปกติ จึงทำได้เพียงการให้ยาประคองอาการและชะลอโรคเท่านั้น ซึ่งหากถุงลมในปอดมีจำนวนและขนาดใหญ่ขึ้นจะทำให้พื้นที่แลกเปลี่ยนออกซิเจนลดน้อยลงหรือมีอากาศค้างในปอด ส่งผลให้ผู้ที่เป็นโรคถุงลมโป่งพองมีอาการหายใจตื้น หายใจลำบาก หายใจเสียงดัง และเหนื่อยหอบในระยะแรก แต่เมื่อเข้าสู่ระยะที่สองจะมีอาการไอเรื้อรังและมีเสมหะ อีกทั้งยังอาจมีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด เกิดความวิตกกังวล อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว ส่วนในบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นระบบหายใจล้มเหลว เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากใช้ชีวิตลำบากควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง แต่จะเกิดมาจากสาเหตุใดบ้างนั้น เรามีคำตอบมาฝาก
การสูบบุหรี่
จากจำนวนผู้ป่วยที่เป็นโรคถุงลมโป่งพองมากกว่า 80% มีสาเหตุมาจากควันบุหรี่ ทั้งจากการสูบด้วยตัวเองและการสูดดมควันบุหรี่จากผู้อื่น เพราะในควันบุหรี่มีสารพิษมากกว่า 7,000 ชนิด ซึ่งหนึ่งในสารพิษสำคัญคือ แคดเมียม โดยหากมีการสูดดมเป็นเวลานานจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคถุงลมโป่งพอง ด้วยเหตุนี้คนที่สูบบุหรี่และคนที่มีโอกาสสูดดมควันบุหรี่เป็นเวลานานจึงมีโอกาสเป็นโรคได้มากกว่าคนที่ไม่ค่อยได้สูดดมควันบุหรี่
ควันพิษจากสารเคมี
กลุ่มคนที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมหรือเหมืองแร่ ถือเป็นอีกกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคถุงลมโป่งพอง เนื่องจากต้องสูดดมสารเคมี ควันพิษที่เกิดจากการเผาไหม้สารเคมี และฝุ่นละออง เป็นระยะเวลานานทำให้เสี่ยงเป็นโรคถุงลมโป่งพองไม่แพ้การสูบบุหรี่ หากต้องทำงานในเหมืองหรือโรงงานสารเคมีควรใส่ชุดสำหรับปฏิบัติงานเพื่อป้องกันสารพิษและฝุ่นละองอย่างรัดกุม
มลพิษ
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าในอากาศนอกจากออกซิเจนแล้ว ยังปนเปื้อนไปด้วยฝุ่นละออง ควันเชื้อเพลิงจากการเผาไหม้น้ำมัน หรือแม้แต่ควันจากการทำอาหาร โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีจำนวนประชากรหนาแน่น ซึ่งถึงจะหลีกเลี่ยงได้ยากเพราะมลพิษเหล่านี้อยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย
ภาวะโรคถุงลมโป่งพองจากการขาดเอนไซม์อัลฟ่า
การขาดเอนไซม์ที่ป้องกันการทำลายเนื้อเยื่อที่ชื่อว่า Alpha-one antitrypsin เป็นโรคทางพันธุกรรมชนิดหนึ่งที่ทำให้เป็นโรคถุงลมโป่งพองได้ ซึ่งหากมีความผิดปกติเล็กน้อยจะไม่ทำให้เป็นโรค ส่วนในกรณีขาดเอนไซม์มากจะทำให้เป็นโรคถุงลมโป่งพองตั้งแต่อายุไม่มาก แต่ถ้ามีความผิดปกติรุนแรงตั้งแต่แรกเกิดจะทำให้มีอาการตับอักเสบอย่างรุนแรงและเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
จะเห็นได้ว่าโรคถุงลมโป่งพองเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งแม้ว่าจะมีปัจจัยหลัก ๆ มาจากควันบุหรี่ แต่หากมีปัจจัยอื่น ๆ รวมด้วยทั้งการทำงานในสถานที่ที่มีสารเคมีหรือฝุ่นละอองจำนวนมาก หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษก็จะทำให้เสี่ยงมากขึ้น ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือคนที่สูบบุหรี่ และควรสวมอุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งที่ต้องไปในสถานที่ที่มีฝุ่นละอองและสารพิษ นอกจากนั้นควรหมั่นสังเกตร่างกายของตัวเองอยู่เสมอถ้ามีอาการหายใจไม่ปกติผิดไปจากเดิมควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย เพราะนอกจากโรคถุงลมโป่งพองแล้วยังมีอีกหลายโรคเกี่ยวกับปอดที่เป็นอันตรายถึงชีวิต