กระเพาะติดเชื้อ ชาปลายประสาท – ผื่นแพ้ง่าย

เคยมีคำกล่าวว่า “โรคเกิดจากการดำเนินชีวิตประจำวัน” เป็นเหมือนภาพสะท้อนลักษณะการใช้ชีวิตของแต่ละ

คน เพราะทุกคนมีไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ทำให้มีโอกาสพบเจอโรคต่าง ๆ ได้ไม่เหมือนกัน แต่สำหรับคนหนุ่มสาววัยทำงานในปัจจุบันที่ต้องดิ้นรนทำงานอย่างหนักจนทานข้าวไม่ตรงเวลา พักผ่อนน้อย ไม่มีเวลาดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองมากนัก ก็มักจะมีอาการป่วยต่าง ๆ ที่คล้ายกัน เช่น กระเพาะติดเชื้อ, ชาปลายประสาท รวมถึงผื่นแพ้ง่าย ซึ่งหากปล่อยไว้อาจเป็นต้นตอของโรคที่ร้ายแรงยิ่งกว่านี้ได้ ดังนั้น วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับอาการป่วยเหล่านี้ให้มากขึ้น

 1. โรคกระเพาะติดเชื้อ 

สำหรับโรค “กระเพาะติดเชื้อ” มักพบได้บ่อยในผู้ป่วยที่รับประทานอาหารไม่ตรงเวลาจนกลายเป็นโรคกระเพาะ เมื่อกระเพาะอ่อนแอก็จะถูกเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ “เอชไพโลไร” (H. Pylori) เข้าจู่โจมทำให้เกิดอาการ กระเพาะอาหารอักเสบ และที่สำคัญคือเจ้าเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้จะผลิตด่างเป็นเกราะป้องกันระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้มันสามารถอาศัยอยู่ในกระเพาะของเราได้นานเป็นสิบปี สำหรับอาการโรคกระเพาะติดเชื้อจะมีอาการปวดท้อง แสบท้อง รับประทานอาหารแล้วรู้สึกจุกผิดปกติ กินยาแก้ปวดท้องแล้วหาย แต่จะกลับมาเป็นใหม่ซ้ำ ๆ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบรักษาอาจนำไปสู่การเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารได้ 

2. โรคชาปลายประสาท

สำหรับโรค “ชาปลายประสาท” หรือ “ปลายประสาทอักเสบ” (Peripheral Neuropathy) มักพบบ่อยให้ในผู้ป่วยที่มีการกดทับของเส้นประสาทจากการใช้ชีวิตหรือทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น เล่นกีฬา, นั่งทำงานเป็นเวลานาน, รวมถึงการขาดวิตามินบี 1, บี 6, บี 12 และวิตามินอี ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อเส้นประสาท โดยผู้ป่วยเป็นโรคนี้จะมีอาหารเหน็บชา รู้สึกเสียวที่มือ เท้า ขา และแขน อาจรู้สึกปวดแสบปวดร้อน รู้สึกปวดผิดปกติเวลาทำกิจกรรมที่ไม่ควรรู้สึกปวด เช่น ปวดเท้าเมื่อเดินลงน้ำหนักปกติ หรือปวดเท้าขณะนอน บางรายอาการอาจหนักถึงขั้นเสียการทรงตัว กล้ามเนื้ออ่อนแรง รวมถึงเป็นอัมพาตได้เลยทีเดียว 

3. โรคผื่นแพ้ผิวหนัง  

สำหรับโรค “โรคผื่นแพ้ผิวหนัง” (Atopic Dermatitis) เป็นโรคที่เกิดจากผิวหนังของผู้ป่วยมีภูมิต้านทานที่ไวต่อปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ มากเกินไป มักพบบ่อยในผู้ป่วยที่มีอาการภูมิแพ้อื่น ๆ เป็นทุนเดิม เช่น แพ้อากาศ, แพ้ฝุ่น, แพ้น้ำหอม และหอบหืด แต่ไม่ระมัดระวังจนไปสัมผัสกับปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้อาการแพ้ลุกลามมากขึ้น เช่น อยู่ในที่อับ อากาศไม่ถ่ายเท มีไรฝุ่น, ใส่เสื้อผ้าที่ระคายเคืองผิวหนัง, ใช้สารระคายเคืองอย่าง น้ำหอม สบู่ ผงซักฟอก, รวมถึงพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือเกิดความเครียดมากเกินไป โดยอาการของผู้ป่วยโรคผื่นแพ้ผิวหนังจะมีอาการผิวแห้งเป็นขุย มีสะเก็ด มีรอยแดงคัน อาจมีตุ่มน้ำเล็ก ๆ หรือมีน้ำเหลืองซึม ตำแหน่งที่มักเกิดรอยผื่นคันจะแตกต่างกันตามวัยของผู้ป่วย เช่น ผู้ใหญ่มักพบตามบริเวณข้อพับต่าง ๆ ส่วนเด็กมักพบบริเวณแก้ม แขนขา และข้อมือข้อเท้า 

ทั้งหมดนี้คือสาระความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอาการป่วยที่พบบ่อยในหมู่คนหนุ่มสาววัยทำงานที่ละเลยการดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเอง แม้ว่าการทำงานหาเลี้ยงชีพจะเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ว่าใครก็ปฏิเสธไม่ได้ แต่การดูแลสุขภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะคงไม่มีใครอยากเอาเงินที่หามาได้ด้วยความยากลำบากไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลตั้งแต่ยังไม่ทันแก่อย่างแน่นอน