Long covld กรุ๊ป เลือดที่เจอปัญหามากที่สุด เพราะเหตุใด

Long covld กรุ๊ป เลือดที่เจอปัญหามากที่สุด เพราะเหตุใด

เมื่อพูดถึงประเด็น “โควิด-19” พบว่า ผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป O เสี่ยงเจอปัญหาอาการลองโควิด (Long COVID) มากที่สุด

ซึ่งมากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่น ๆ ราว 6 เท่า แต่การศึกษาในหลายประเทศ ยังไม่พบว่ากรุ๊ปเลือดใดมีผลต่อการเป็นลองโควิดมากกว่ากัน 

ทำความเข้าใจ Long COVID คืออะไร

อาการ Long COVID หมายถึง อาการที่หลงเหลืออยู่หลังติดเชื้อโควิด แม้จะหายดีกลับบ้านได้แล้วแต่โรคไม่จบ ร่างกายไม่ฟื้นฟูกลับสู่ภาวะสุขภาพที่เคยแข็งแรงตามปกติ  ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยโควิด-19 หลังจากรับเชื้อนานตั้งแต่ 4 สัปดาห์ไปจนถึง 12 สัปดาห์ขึ้นไป หรืออาการเกิดขึ้นยาวนานกว่านั้น อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว

ผู้ป่วยจะมีอาการป่วยแตกต่างกันไป อาการผิดปกติพบบ่อยที่สุดเริ่มตั้งแต่อาการไม่รุนแรง คือ เหนื่อยล้าอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ผมร่วง สมาธิสั้น ไอ หายใจถี่หรือหายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ปวดตามข้อ ท้องร่วง กล้ามเนื้ออ่อนแรง วิตกกังวล ซึมเศร้า โรคเครียดนอนไม่หลับ และความดันโลหิตสูง เกิดขึ้นได้หลังป่วยโควิด โดยมีอาการตั้งแต่หลายสัปดาห์จนถึงหลายเดือนทำให้ร่างกายทรุดโทรม

กลุ่มเสี่ยงเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย รวมทั้งผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคเบาหวาน โรคอ้วน ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ หรือเคยป่วยโควิดมาก่อน แต่ไม่แสดงอาการก็อาจเกิดอาการ Long COVID ได้ โดยพบว่าสุขภาพร่างกายไม่ปกติเหมือนก่อนเป็นโรค สังเกตอาการหลักเลยคือ รู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ หายใจเหนื่อย ไอเรื้อรัง หากเป็นโควิดและหายแล้ว แต่ยังมีอาการต่อเนื่องอย่างน้อย 2 เดือน อาจเกิดจาก Long COVID ก็เป็นได้ คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงข้างต้นควรไปพบแพทย์

Long COVID กับกรุ๊ปเลือด

จากคำถามว่า Long covid กรุ๊ปเลือดที่เจอปัญหามากที่สุด เพราะเหตุใด

ตามวารสารการแพทย์โรคติดเชื้อ Infectious Diseases รายงานการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป O เสี่ยงเกิดปัญหา Long COVID มากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่น ๆ ราว 6 เท่า  โดยอธิบายถึงสาเหตุไว้ว่าเพราะผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป O มีค่าสารเคมีในเลือดบ่งชี้ว่าเกิดการอักเสบมากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่น ทั้งยังมีอาการผิดปกติต่าง ๆ มากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่นอีกด้วย ซึ่งตรงกับความเห็นของ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ผลวิจัยพบว่าเลือดแต่ละกรุ๊ปเจอปัญหา Long COVID แตกต่างกัน โดยคนเลือดกรุ๊ป O มีโอกาสเป็นมากกว่าคนกรุ๊ปเลือดอื่นราว 6 เท่า (ความเชื่อมั่นราว 95% ตั้งแต่ 1.6-23 เท่า) เนื่องจากร่างกายยังฟื้นฟูไม่เต็มที่อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติภายในร่างกายและเกิดขึ้นเป็นระยะยาวซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างรุนแรง ในบางรายเพิกเฉยปล่อยให้เกิดอาการ Long COVID นานเกินไป อาจเป็นอันตรายได้

กลุ่มนักวิจัยในหลายประเทศรายงานว่า คนกรุ๊ปเลือด O มีโอกาสสูงที่จะติดโควิดแล้วต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและมีอาการรุนแรงมากกว่าคนกรุ๊ปเลือดอื่น ๆ เสี่ยงเกิดภาวะหายใจล้มเหลว สาเหตุเพราะเกิดการติดเชื้อในปอดและมีอาการหายใจไม่ออกแบบเฉียบพลัน แต่เรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยันชัดเจนและยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาต่อไป จึงแนะนำให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างครบถ้วนไปฉีดวัคซีนให้ครบเพื่อสร้างระดับภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ คนในสหรัฐและคนไทยมีเลือดกรุ๊ป A มากเป็นอันดับที่ 2 รองจากเลือดกรุ๊ป O ในเมื่อคนสองกลุ่มนี้มีจำนวนมาก ย่อมมีโอกาสติดโรคมากกว่าเช่นกัน  เนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรน่า-19 มีการจับตัวกับสารแอนติเจน (Antigen) ที่มีอยู่ในกรุ๊ปเลือดได้ดีเป็นพิเศษ โดยสารแอนติเจนถ่ายทอดทางพันธุกรรม จากพ่อหรือแม่สู่ลูก เมื่อทราบแล้วยิ่งต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ก่อนที่จะการรักษาและวิธีในการป้องกันในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น

สรุปง่าย ๆ ว่า การศึกษาหลาย ๆ ประเทศ ยังไม่พบว่ากรุ๊ปเลือดมีผลต่อการเป็น Long COVID แต่ถ้าหากไม่ป้องกันและดูแลตัวเองที่ดี เช่น สวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ และทำความสะอาดสิ่งของที่ต้องสัมผัสบ่อย ๆ จะมีกรุ๊ปเลือดไหนล้วนมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 ได้ทั้งนั้น ควรลดความเสี่ยงในติดเชื้อจะปลอดภัยที่สุด

สำหรับนักเรียนอายุน้อย รวมไปถึงคนทำงาน และคนที่ใช้ชีวิตในสังคมควรสวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอและพกสเปรย์แอลกอฮอล์ไว้ล้างมือหลังสัมผัสสิ่งของสาธารณะ เพื่อป้องกันตัวและลดความเสี่ยงจากอาการ Long COVID ไปได้มาก