โรคไวรัสแบคทีเรีย คือ ?

โดยปกติแล้วเชื้อไวรัสกับเชื้อแบคทีเรีย ถือเป็นเชื้อโรคคนละสายพันธุ์ โดยเชื้อไวรัสจะมีขนาดที่เล็กกว่าเชื้อแบคทีเรียมากและมีโปรตีนเป็นส่วนประกอบ

หลัก อาศัยสิ่งมีชีวิตในการเพิ่มจำนวน ในขณะที่แบคทีเรียจะมีขนาดใหญ่กว่าเชื้อไวรัส สามารถเพิ่มจำนวนได้โดยไม่ต้องอาศัยสิ่งมีชีวิตและมีชีวิตอยู่รอดแม้ในสภาพอากาศที่ร้อนหรือเย็นจัด แต่ด้วยสภาวะอากาศ สุขภาพ พฤติกรรมของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทำให้เชื้อโรคทั้งสองชนิดสามารถทำงานร่วมกันจนเกิดเป็นโรคอุบัติใหม่ เช่น โควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดในช่วงที่ผ่านมา เพราะนอกจากจะทำให้ผู้ป่วยเป็นไข้หวัดแล้ว ยังมีอาการเจ็บคอและมีไข้สูงตามมาด้วยเสมอ

• ใครสามารถรับเชื้อโรคไวรัสแบคทีเรียได้บ้าง

ด้วยโรคดังกล่าวถือเป็นโรคอุบัติใหม่ จึงทำให้คนที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันมีโอกาสเสี่ยงที่จะรับเชื้อและเป็นโรคดังกล่าวได้ โดยเฉพาะวัยเด็ก ผู้สูงอายุ และคนที่มีโรคประจำตัว เพราะมักจะมีภูมิคุ้มกันต่ำ หากได้รับเชื้อระยะการพัฒนาของโรคและอาการป่วยจะดูรุนแรงมากกว่า

• การแพร่ระบาดของโรค

เนื่องจากเชื้อโรคที่เป็นทั้งไวรัสและแบคทีเรีย ทำให้การแพร่ระบาดมีความคล้ายคลึงกัน เช่น ทางการสัมผัสทางกายและการสัมผัสทางลมหายใจ ซึ่งการแพร่ระบาดด้วยการไอ จาม ละอองน้ำลายและน้ำมูก เป็นการแพร่ระบาดทางตรงที่ง่ายและรวดเร็วมากที่สุด ในขณะที่การสัมผัสหรือสิ่งปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกาย แม้จะดูมีโอกาสน้อยแต่หากสัมผัสเข้าไปโดยตรงก็อาจทำให้เจ็บป่วยได้

• อาการที่พบและผลกระทบของโรค

หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัสแบคทีเรียเข้ามาในร่างกายแล้ว อาการที่มักแสดงออกเป็นอันดับแรกได้แก่

• เป็นไข้ ตัวร้อน ปวดเมื่อยตามร่างกาย เหมือนไข้หวัดทั่ว ๆ ไป 
• คอแดง เสียงแหบ เริ่มจะไม่อยากกินอาหาร เพราะเจ็บคอ
• เริ่มมีอาการไอที่ผิดปกติ ไม่เหมือนไข้หวัดทั่ว ๆ ไป 
• หากตรวจพบว่าปอดติดเชื้อ จะทำให้ผู้ป่วยเริ่มหอบ เหนื่อย หายใจเร็ว
• หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจพบอาการโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ซึ่งร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

• แนวทางในการรักษาและป้องกัน

ก่อนอื่นสิ่งที่ต้องทำคือการดูแลและใส่ใจตนเอง โดยเฉพาะสุขอนามัย เช่น การสวมใส่หน้ากากอนามัย เมื่อต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดและคนพลุกพล่าน รักษาระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร 

เมื่อพบว่าตนเองหรือคนในบ้านเป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ให้ทำความสะอาดจมูกด้วยวิธีการล้างด้วยน้ำเกลือทุกเช้าและเย็น เพื่อช่วยในการฆ่าเชื้อในระบบทางเดินหายใจและขับสารคัดหลั่งออกมาจากระบบทางเดินหายใจ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพราะเชื้อโรคบางชนิดหากไม่รับประทานยาตามขนาดที่กำหนด อาจประสบปัญหาภาวะดื้อยาโดยเฉพาะยาต้านแบคทีเรียที่จำเป็นจะต้องกินให้ครบจำนวนตามที่แพทยสั่ง มิฉะนั้นอาจทำให้เชื้อโรคกลายพันธุ์และเป็นอันตรายต่ออวัยวะภายในได้

โรคไวรัสแบคทีเรีย นับเป็นโรคอุบัติใหม่ที่ยากจะหาทางป้องกัน แม้ในปัจจุบันจะมีวัคซีนออกมาช่วยเหลือ แต่ก็เพียงการบรรเทาความรุนแรงของโรคให้กับประชาชน ยังไม่นับรวมถึงอาการในระยะยาวที่เชื้อโรคได้สร้างความเสียหายต่ออวัยวะภายในไว้ ดังนั้นทุกคนควรเอาใจใส่และสังเกตตนเองอยู่เสมอ เพื่อป้องกันตนเองจากเชื้อโรค หากพบว่าร่างกายผิดปกติ ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์โดยตรง ห้ามซื้อยารับประทานเองเด็ดขาด