โรคเริมที่อวัยวะเพศเกิดขึ้นเพราะ ?

โรคเริมที่อวัยวะเพศเกิดขึ้นเพราะ

เริมที่อวัยวะเพศ โรคในที่ลับซึ่งไม่ควรเก็บเป็นความลับ เพราะคนที่เป็นเริมไม่สามารถรักษาให้หายเอง แม้แต่การรักษาภายใต้ความดูแลของแพทย์ก็ยัง

ไม่อาจลบล้างเชื้อไวรัสให้สิ้นซากได้ 100% เมื่อไรที่ไวรัสตัวการของเริมเข้าสู่ร่างกายคนเราแล้วจะอยู่คู่กับคนไปตลอดชีวิต

ไวรัสตัวการของเริมคืออะไร

สำหรับเริมที่อวัยวะเพศนั้นตัวการคือไวรัส HSV-2 (Herpes Simplex Virus 2) ซึ่งเป็นคนละชนิดกับไวรัสที่ทำให้เกิดเริมที่ปากหรือผิวหนัง ไวรัสตัวนั้นคือ HSV-1 

ไวรัส HSV-2 เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นเริมชนิดนี้ โดยเจ้าตัวผู้แพร่เชื้อก็อาจจะยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นเริม เพราะอาการของเริมในระยะแรกอาจจะไม่มีแผล ไม่คัน ไม่มีตุ่ม อาการของเริมในบางคนจะเริ่มปรากฏหลังจากรับเชื้อมานานถึง 20 วัน แต่บางคนจะออกอาการเร็วกว่านั้น

อาการของโรคเริมที่อวัยวะเพศ

ผู้ที่ติดเชื้อเริมจะเริ่มรู้สึกเหมือนเป็นไข้ในช่วงประมาณสัปดาห์แรกหรือสัปดาห์ที่ 2 ตามมาด้วยอาการเหล่านี้

  • รู้สึกคันบริเวณอวัยวะเพศ ขาหนีบ และอาจคันไปถึงก้น
  • มีตุ่มใสขนาดเล็กขึ้นมาในบริเวณที่คัน
  • ปัสสาวะลำบาก เมื่อตุ่มเล็ก ๆ แตกออกจนเป็นแผล
  • สำหรับผู้หญิงอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นภายในช่องคลอดได้ด้วย

รักษาเริมครั้งแรกหายแล้ว แต่กลับมาเป็นใหม่ได้อีก

ดังที่กล่าวไปแล้วว่า เชื้อไวรัสที่เป็นตัวการของเริมจะอยู่กับร่างกายคนไปตลอด ดังนั้นคนที่เคยเป็นเริม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจึงกลับมาเป็นอีกทั้ง ๆ ที่ระมัดระวังตัวในการมีเพศสัมพันธ์เป็นอย่างดีแล้ว สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ

  • ร่างกายอ่อนแอ พักผ่อนน้อย ภูมิต้านทานต่ำ 
  • มีการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยทางอื่น เช่น การสัมผัสทางผิวหนัง การใช้ของใช้ร่วมกับผู้ติดเชื้อ 
  • การที่เด็กทารกได้รับเชื้อจากครรภ์มารดา โดยเฉพาะการคลอดธรรมชาติซึ่งทำให้เด็กติดเชื้อแน่นอนและเชื้อนั้นจะอยู่กับเด็กตลอดไป เมื่อโตขึ้นและร่างกายอ่อนแอโรคก็จะกำเริบขึ้นได้

โรคเริมที่อวัยวะเพศอันตรายแค่ไหน

โรคนี้รักษาหายได้ แต่อาจจะหายเพียงชั่วคราว ทั้งยังมีอันตรายอย่างอื่นที่ควรระวังอีกด้วย นั่นก็คือ 

  • หากมีเชื้อ HSV-2 ในร่างกายแล้ว จะมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเอดส์มากกว่าคนปกติถึง 3 เท่า
  • ควรระวังเรื่องการตั้งครรภ์ ผู้ที่เป็นเริมในช่วงกลางของการตั้งครรภ์มีโอกาสแพร่เชื้อไปยังทารกได้มาก ทารกอาจติดเชื้อจนกระทั่งเสียชีวิตในครรภ์ ส่วนผู้ที่ติดเชื้อเริมในช่วงใกล้คลอดเชื้อไวรัสจะแพร่ไปยังเด็กและไม่สามารถคลอดเองได้
  • อันตรายจากภาวะแทรกซ้อน หากดูแลรักษาแผลไม่ถูกสุขลักษณะแผลอาจเป็นหนองลุกลามมากขึ้น 

ดูแลตัวเองอย่างดี เมื่อเป็นโรคเริมที่อวัยวะเพศ 

ผู้ป่วยโรคเริมหลังจากพบแพทย์เพื่อทำการรักษาแล้วควรดูแลตัวเองด้วยการ

  • ไม่สัมผัสแผลและไม่ล้างแผลบ่อยเกินไป
  • ไม่ควรให้แผลถูกน้ำ ถ้าอาบน้ำควรซับแผลให้แห้งสนิท
  • งดเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะหาย
  • ไม่อดนอน ไม่ทำงานหนักเกินไป รับประทานอาหารบำรุงสุขภาพ
  • งดแอลกอฮอล์และบุหรี่

โรคเริมมีโอกาสกลับมาได้ตลอดเวลาถ้าไม่ดูแลสุขภาพ ดังนั้นหากผู้ใดเคยเป็นโรคนี้ควรใส่ใจตนเองให้แข็งแรงเสมอ อย่าให้เริมหวนกลับมาหาได้ง่าย ๆ