มีคำถามชวนสงสัยว่า คุณแม่ตั้งครรภ์กิน “น้ำมะพร้าว” ดีหรือไม่ดี มีการสอนหรือบอกเล่าต่อกันมาว่า ช่วงท้อง
อ่อนไม่ควรกินน้ำมะพร้าวเพราะจะทำให้แท้งได้ กับควรกินน้ำมะพร้าวช่วงท้องแก่ใกล้คลอดเพราะจะทำให้คลอดง่าย ลูกคลอดออกมาแล้วตัวไม่เป็นไข เราได้ยินเรื่องเหล่านี้มานาน วันนี้จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับน้ำมะพร้าวกับคุณแม่ตั้งครรภ์ให้กระจ่างกันไปเลยค่ะ
ก่อนจะไปกล่าวถึงเรื่องว่าแม่ตั้งท้องควรหรือไม่ควรดื่มน้ำมะพร้าว ขอเกริ่นสรรพคุณของน้ำมะพร้าวโดยทั่วไปกันก่อนสักเล็กน้อยนะคะ น้ำมะพร้าวมีประโยชน์หลายอย่าง ดังนี้ค่ะ
คราวนี้มาถึงเรื่องคนท้องว่าควรดื่มน้ำมะพร้าวหรือไม่ และดื่มได้ตอนอายุครรภ์กี่สัปดาห์ ความเชื่อเรื่องไม่ควรดื่มน้ำมะพร้าวช่วงท้องอ่อน ๆ เพราะทำให้มดลูกบีบตัวถึงกับแท้งได้ มีที่มาตั้งแต่ความเชื่อว่าให้หลีกเลี่ยงน้ำมะพร้าวในช่วงมีประจำเดือน เพราะจะทำให้ประจำเดือนไหลมากผิดปกติ ความเชื่อเหล่านี้มาจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีในน้ำมะพร้าวซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงมีผลต่อการบีบรัดมดลูก ซึ่งเป็นเรื่องจริงแต่ทางการแพทย์มีการแจ้งว่า ในน้ำมะพร้าวแม้จะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ แต่มีปริมาณไม่มาก ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่อยู่ในร่างกายนั้นยังมีมากกว่า ดังนั้นการดื่มน้ำมะพร้าวจึงไม่มีผลต่อการบีบรัดมดลูกจนถึงทำให้แท้งได้
อย่างไรก็ตามการดื่มน้ำมะพร้าวอาจทำให้คุณแม่มีอาการมดลูกบีบรัดตัวบ้าง เพราะเลือดไปหล่อเลี้ยงบริเวณมดลูกมากขึ้น อาจมีอาการคัดตึงที่บริเวณเต้านม เป็นอาการที่เกิดได้จากฮอร์โมนเอสโตรเจน ข้อแนะนำคือดื่มน้ำมะพร้าวได้ แต่ต้องเป็นปริมาณที่เหมาะสม ไม่ใช่ว่าปกติไม่เคยดื่ม พอตั้งท้องนึกอยากดื่มน้ำมะพร้าวก็ดื่มทุกวันเช้าเย็นติดต่อกันหลาย ๆ วัน ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนได้
สำหรับเรื่องท้องแก่ควรดื่มน้ำมะพร้าวเยอะ ๆ เพื่อให้คลอดง่าย ตัวเด็กไม่เป็นไข มีข้อมูลเชิงการแพทย์กล่าวไว้ว่า ทารกในครรภ์จะมีการสร้างไขเพื่อให้ความชุ่มชื้นกับผิว ป้องกันเชื้อโรคที่เข้าสู่ผิว และเป็นเหมือนไขมันหล่อลื่นช่วยให้คลอดง่าย เมื่อถึงเวลาใกล้คลอดไขทารกจะลดปริมาณลงแต่ยังอาจมีอยู่ได้ การดื่มน้ำมะพร้าวไม่มีผลกับเรื่องที่ลูกคลอดแล้วตัวจะไม่เป็นไข ทั้งนี้อาจเป็นเรื่องบังเอิญ เช่น แม่ที่ลูกคลอดก่อนกำหนดจะเห็นว่าลูกตัวเป็นไข แต่ถ้าคลอดปกติไขก็จะน้อยกว่า ถ้าบังเอิญแม่ที่คลอดปกติดื่มน้ำมะพร้าวก็อาจจะเข้าใจไปเองว่าดื่มแล้วตัวลูกไม่มีไข เป็นต้น
สุดท้ายนี้ต้องขอแนะนำว่า การทานอะไรก็ตามหากมากเกินไปอาจไม่เป็นผลดีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรทานอาหารให้หลากหลายเพื่อให้เด็กในครรภ์ได้สารอาหารที่ครบถ้วน และควรทานในปริมาณที่เหมาะสมด้วย ในภาวะที่ครรภ์ผิดปกติ เช่น ครรภ์เป็นพิษ คุณแม่ควรเลือกทานอาหารและเลี่ยงอาหารบางประเภท โดยสามารถปรึกษาแพทย์ที่เราฝากครรภ์ได้