โรคลมพิษ” คือ โรคผื่นคันชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย อาการส่วนมากเป็นอาการคันแบบเป็น ๆ หาย ๆ นั่นทำให้คนส่วนใหญ่ที่ได้ยินชื่อ
โรคนี้จึงคิดว่าไม่ใช่โรครุนแรง แต่ทราบหรือไม่ว่าแท้จริงแล้วโรคลมพิษยังแสดงอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อาการบวมบริเวณตาและริมฝีปาก อาเจียน แน่นหน้าอก และหายใจติดขัด ซึ่งหากอาการรุนแรงและพบแพทย์ไม่ทันอาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
ทำความรู้จักโรคลมพิษและอาการของโรคลมพิษ
โรคลมพิษเป็นโรคที่พบได้ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะช่วงอายุ 20 – 40 ปี อาการคันจากลมพิษจะไม่เหมือนอาการคันทั่วไป สังเกตได้จากผื่นคันที่มีลักษณะเป็นปื้นสีแดง ไม่มีขุย ขึ้นกระจายทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว นอกจากอาการผื่นคันแล้วบางรายมีอาการปวดหัว ปวดท้อง ปากบวม ตาบวม ปวดตามข้อ หายไจไม่ออก บางรายอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต โดยโรคลมพิษแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่
โรคลมพิษแบบเฉียบพลันผู้ป่วยจะมีอาการคันต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่ไม่เกิน 6 สัปดาห์ บางรายเริ่มต้นจากการเป็นลมพิษแบบเฉียบพลันก่อนแล้วพัฒนาเป็นลมพิษแบบเรื้อรัง
โรคลมพิษที่เกิดขึ้นแบบเรื้อรังผู้ป่วยจะมีอาการคันเช่นเดียวกับแบบเฉียบพลัน แต่อาการคันจะเป็น ๆ หาย ๆ ส่วนใหญ่มีอาการคันอย่างน้อย 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ได้เป็นติดต่อกันทุกวัน และจะเป็นต่อเนื่องมากกว่า 6 สัปดาห์
ไม่ว่าจะเป็นลมพิษแบบเฉียบพลันหรือแบบเรื้อรัง สาเหตุการเกิดโรคมีอยู่ด้วยกันหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพักผ่อนไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารบางชนิด เช่น อาหารทะเล อาหารหมักดอง การรับประทานอาหารที่มีสีผสมอาหาร การแพ้ยา การแพ้สารเคมี การแพ้พิษจากแมลงหรือสัตว์ต่าง ๆ รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย บางรายแพทย์ไม่สามารถค้นหาสาเหตุแน่ชัดได้เนื่องจากขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยรวมกัน
โรคลมพิษรักษาได้หรือไม่
โรคลมพิษนับเป็นโรคเกี่ยวกับผิวหนังชนิดหนึ่งที่สามารถรักษาหายได้แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ทุกรายเสมอไป เพราะบางรายที่แพทย์ไม่สามารถค้นหาสาเหตุได้หรือเมื่อแพทย์ให้ยาแก้แพ้แล้วตัวยาไม่สามารถต้านทานเชื้อได้ อาการของโรคจะเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงเป็นการรักษาเพื่อควบคุมไม่ให้อาการรุนแรงเท่านั้น สำหรับวิธีการรักษาคือแพทย์จะค้นหาสาเหตุอาการแพ้ เมื่อพบสาเหตุการแพ้แล้วจะให้ผู้ป่วยทานยากลุ่มยาแก้แพ้เพื่อลดอาการแพ้และอาการคัน สำหรับผู้ป่วยอาการหนักแพทย์จะให้ยาที่มีฤทธิ์ช่วยระงับการหลั่งสารในร่างกายอันเป็นสื่อกลางทำให้เกิดลมพิษร่วมด้วย หากร่างกายผู้ป่วยตอบสนองได้ดีอาการแพ้จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ จนลมพิษหายได้ในที่สุด แต่ในขณะเดียวกันสำหรับผู้ป่วยอาการเรื้อรังจำเป็นต้องใช้ระยะเวลา 2 – 5 ปี เพื่อควบคุมอาการและทำให้โรคลมพิษหายไปในที่สุด
เมื่อทราบแบบนี้แล้วหากสังเกตว่าตัวเองมีผื่นคันติดต่อกันหลายวันหรือเกิดอาการคันแบบเป็น ๆ หาย ๆ แม้อาการไม่รุนแรงแต่ถึงอย่างนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุอาการคัน แพทย์จะช่วยแนะนำวิธีการรักษาและวิธีป้องกันการเกิดอาการแพ้ ซึ่งหากสามารถแก้อาการลมพิษหรือควบคุมอาการแพ้ได้ผู้ป่วยจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจรวมถึงยังเข้าสังคมได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องห่วงว่าใครจะเห็นรอยแดง และไม่ต้องเกาในที่สาธารณะบ่อย ๆ นั่นเอง