ไขมันพอกตับ” เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เป็นสาเหตุของโรคอ้วนลงพุง ขาดการออกกำลังกาย
ดื่มสุราเรื้อรัง และการกินยาบางชนิด ทำให้เกิดโรคตับแข็งและอาจเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนได้ ที่จริงแล้ววิธีการป้องกันนั้นไม่ยากเลย
รู้จักภาวะไขมันพอกตับ
ตับเป็นอวัยวะขนาดใหญ่อยู่ในช่องท้องบริเวณด้านบนขวาใต้ซี่โครง ถือว่ามีความสำคัญต่อกระบวนการทำงานในร่างกาย ช่วยในการเผาผลาญอาหาร เปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้เป็นน้ำตาล และเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน ทำลายสารพิษต่าง ๆ ตลอดจนสังเคราะห์โปรตีน และทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น
ภาวะไขมันพอกตับ (Fatty Liver) เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถนำไขมันที่รับประทานไปใช้ได้หมด จึงเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์ในตับเป็นจำนวนมาก เกิดการสะสมขึ้นที่ตับจนเกิดโรคหรือภาวะที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด คือ กินอาหารมัน อาหารหวาน หรืออาหารคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป
สัญญาณอันตรายเบื้องต้น
โรคไขมันพอกตับเป็นภัยเงียบที่คุณอาจไม่รู้ตัว ในระยะแรกจะมีอาการทั่วไป ไม่ได้โดดเด่นจนไหวตัวทัน แต่ถ้าสังเกตว่ามีอาการเหล่านี้ต้องเพิ่มความระมัดระวังแล้ว
ป้องกันด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน
สิ่งสำคัญในการรักษาโรคไขมันพอกตับคือการควบคุมอาหารและออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักให้เหมาะสมอยู่เสมอ
ไขมันพอกตับ มีการดำเนินโรคเป็น 4 ระยะ
ระยะที่ 1 พบการสะสมของไขมันในเนื้อตับ แต่ยังไม่มีอาการใด ๆ
ระยะที่ 2 มีการอักเสบของตับ และเซลล์ตับถูกทำลายบางส่วน หากปล่อยทิ้งไว้อาจกลายเป็น
ระยะที่ 3 เกิดโรคตับอักเสบเรื้อรังและเกิดพังผืดสะสมภายใน 6 เดือน
ระยะที่ 4 เกิดภาวะตับแข็ง ตับเสื่อมสมรรถภาพ มีโอกาสพัฒนากลายเป็นมะเร็งตับในอนาคต
ความเสี่ยงของภาวะไขมันพอกตับ อาจพิจารณาได้จาก
หลายคนอาจยังนึกไม่ออกว่าภาวะไขมันพอกตับอันตรายแค่ไหน เพราะตับทำงานผิดปกติแต่ไม่เกิดความเจ็บปวดและโดยมากไม่รู้ตัวเลย โรคนี้จึงน่ากลัวกว่าที่คิดและอาจลุกลามกลายเป็นภาวะตับแข็งหรือโรคมะเร็งตับได้ รู้แล้วเช็กว่าคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่และปฏิบัติตามวิธีป้องกันอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคชนิดนี้