กระเจี๊ยบเขียว ราชาพืชผักสวนครัว ประโยชน์ ?

กระเจี๊ยบเขียวราชาพืชผักสวนครัวประโยชน์?

กระเจี๊ยบเขียว เป็นพืชผักสวนครัวที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน นิยมนำมารับประทานทั้งสด

ลวก ต้ม แกง ทอด หรือทำเป็นเครื่องดื่ม กระเจี๊ยบเขียวมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว อุดมไปด้วยสารอาหารและสารสำคัญมากมาย มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้

ประโยชน์ของกระเจี๊ยบเขียว

  • ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด กระเจี๊ยบเขียวมีสารอาหารหลายชนิดที่มีฤทธิ์ช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือด เช่น ไฟเบอร์ วิตามินซี และโพแทสเซียม ไฟเบอร์ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด วิตามินซีช่วยกระตุ้นการทำงานของอินซูลิน ทำให้อินซูลินทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และโพแทสเซียมช่วยปรับสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่
  • ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด กระเจี๊ยบเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ กระเจี๊ยบเขียวมีวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส ชุ่มชื้น และป้องกันริ้วรอย
  • ช่วยต้านมะเร็ง กระเจี๊ยบเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง
  • ช่วยขับปัสสาวะ กระเจี๊ยบเขียวมีสารเพคตินสูง ช่วยในการขับปัสสาวะ ช่วยลดอาการบวมน้ำ
  • ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย กระเจี๊ยบเขียวมีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone) ที่มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย
  • ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน กระเจี๊ยบเขียวมีแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
  • ช่วยเพิ่มน้ำหนัก กระเจี๊ยบเขียวมีแคลอรีสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มน้ำหนัก

วิธีรับประทานกระเจี๊ยบเขียวเพื่อสุขภาพ

กระเจี๊ยบเขียวสามารถรับประทานได้หลายวิธี ดังนี้

  • รับประทานสด กระเจี๊ยบเขียวสดมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมนำมารับประทานเป็นเครื่องเคียง หรือรับประทานเป็นอาหารว่าง
  • ลวก กระเจี๊ยบเขียวลวกมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมนำมารับประทานเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือรับประทานเป็นเมนูแกงต่างๆ
  • ต้ม กระเจี๊ยบเขียวต้มมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมนำมารับประทานเป็นเมนูแกงต่างๆ หรือรับประทานเป็นเครื่องดื่ม
  • แกง กระเจี๊ยบเขียวแกงได้หลากหลายชนิด เช่น แกงส้ม แกงเขียวหวาน แกงเหลือง เป็นต้น
  • ทอด กระเจี๊ยบเขียวทอดมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมนำมารับประทานเป็นอาหารว่าง หรือรับประทานเป็นเมนูทานเล่น
  • เครื่องดื่ม กระเจี๊ยบเขียวสามารถนำมาชงเป็นเครื่องดื่มได้หลายชนิด เช่น น้ำกระเจี๊ยบ น้ำกระเจี๊ยบปั่น น้ำกระเจี๊ยบเชื่อม เป็นต้น

ข้อควรระวังในการรับประทานกระเจี๊ยบเขียว

  • ผู้ที่มีอาการท้องเสียหรือท้องร่วง ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกระเจี๊ยบเขียว เพราะกระเจี๊ยบเขียวมีสารเพคตินสูง ซึ่งอาจทำให้อาการท้องเสียหรือท้องร่วงรุนแรงขึ้น
  • ผู้ที่รับประทานยาลดความดันโลหิต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานกระเจี๊ยบเขียว เพราะกระเจี๊ยบเขียวมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต
  • ผู้ที่รับประทานยาขยายหลอดเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานกระเจี๊ยบเขียว เพราะกระเจี๊ยบเขียวมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด
  • ผู้ที่รับประทานยาขับปัสสาวะ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานกระเจี๊ยบเขียว เพราะกระเจี๊ยบเขียวมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ

กระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชผักสวนครัวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย กระเจี๊ยบเขียวสามารถรับประทานได้หลายวิธี เลือกรับประทานได้ตามชอบ