เห็ดจมูกหมู ทานได้จริง หรือ ไม่

เห็ดจมูกหมู” หรือ “เห็ดสุกรมัททวะ” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Galiella rufa (schweinitz)Nannfeldt s. korf.  เป็นเห็ด

ที่มีลักษณะต่างจากเห็นทั่วไป คือ ตัวดอกเห็ดจะไม่มีหมวกเห็ดบานยื่นออกมาเป็นลักษณะคล้ายกับร่มเหมือนสายพันธุ์อื่น ๆ ความพิเศษของสายพันธุ์นี้คือ ดอกเห็ดจะมีลักษณะเป็นแท่งงอกออกมา คล้ายกับถ้วยหรือโอ่งใส่น้ำ มักขึ้นบริเวณขอนไม้ที่เปื่อยและฝังดินมานานจนผุพัง ด้วยลักษณะของดอกเห็ดที่เป็นแท่งนี้เอง จึงทำให้แต่ละท้องถิ่น มักจะมีชื่อเรียกเห็ดชนิดนี้ แตกต่างกันออกไป เช่น จังหวัดตราดเรียกว่า “เห็ดจมูกม้า” บางจังหวัดเรียก เห็ดจมูกหมู เห็ดตาควาย เห็ดดังหมู เห็ดปากหมู และเห็ดเท้าช้าง เป็นต้น

ลักษณะของเห็ดจมูกหมู

ลักษณะของเห็ดจมูกหมู ภายนอกของเห็ดจะมีสีคล้ำ ยกเว้นบริเวณส่วนหน้าเห็ดหรือส่วนบนสุดจะมีลักษณะเป็นยอดหน้าตัด ไม่ได้มีรูปทรงเป็นโดมหรือลักษณะเป็นร่มที่กางเหมือนกับสายพันธุ์อื่น ๆ ส่วนหน้าตัดจะมีสีออกส้ม คล้ายปลายจมูกหมู หรือเท้าของช้าง จนเป็นที่มาของชื่อเห็ดสายพันธุ์นี้

ลักษณะภายนอก ส่วนที่เป็นสีคล้ำจะมีความเหนียว และมีขนเล็ก ๆ ขึ้นปกคลุมบริเวณยอดตัดสีส้ม ขนาดของเห็ด 1 ดอก จะอยู่ที่ประมาณ 1.5 cm. – 3 cm. ความสูงประมาณ 1-3 cm.

ลักษณะภายในของเห็ดชนิดนี้จะเป็นเนื้อวุ้นใส ๆ และมีน้ำมากกว่าเห็ดทั่วไป คนเดินป่า หรือชาวบ้านสมัยโบราณมักจะเก็บเห็ดจมูกหมูมาดูดกินแทนน้ำ เมื่อขาดน้ำหรือน้ำหมดในเวลาที่เดินป่า

เห็ดจมูกหมู ทานได้จริง หรือ ไม่?

เห็ดจมูกหมู ทานได้ เป็นเห็ดที่ทานกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่เนื่องจากสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป ทั้งแหล่งที่จะให้เห็ดได้เจริญเติบโตมีน้อยลง ขอนไม้ที่เปื่อยผุพังซึ่งเป็นแหล่งที่เห็ดเจริญเติบโตได้ดี พร้อมกับสภาพอากาศที่ชื้นและเย็นก็เปลี่ยนไปตามสภาวะโลกที่ร้อนขึ้น จึงทำให้เราไม่ค่อยได้พบเห็นเห็ดจมูกหมูได้บ่อยมากนักในปัจจุบัน เว้นแต่เป็นป่าที่ยังคงสภาพดิบชื้นที่อาจจะพอมีเห็ดชนิดนี้อยู่บ้าง

เห็ดจมูกหมู สามารถทานได้ทั้งแบบสดและแบบสุก   

• รับประทานแบบสด สามารถทานได้เลย เป็นเห็ดที่ไม่มีรสชาติ มีความเป็นเจลลีและมีรสจืด คล้ายเห็ดหูหนู แต่จะมีน้ำและความฉ่ำของเนื้อวุ้นในเห็ดมากกว่า
• รับประทานแบบสุก ในแต่ละท้องถิ่นก็จะมีการนำไปปรุงอาหารในรูปแบบต่าง ๆ กันไป เมนูที่นิยมทำทาน เช่น 

• แกงรวมกับเห็ดชนิดอื่น ๆ หรือจะแกงเดี่ยว ๆ ก็ได้เช่นกัน 
• ลาบเห็ด นำเห็ดไปหั่นแล้วนำไปลวกจนสุก นำมาปรุงเหมือนทำลาบอีสาน ใส่เครื่องปรุง ข้าวคั่ว และวัตถุดิบตามใจชอบได้เลย
• เมนูยำ  การเตรียมเห็ดสำหรับยำก็คล้ายกับการทำลาบ คือนำไปลวกให้สุกก่อนน้ำมาปรุงใส่เครื่องยำ
• เมนูผัด  ผัดใส่เนื้อสัตว์ เหมือนผัดเห็ดทั่วไปได้เลย ไม่ต้องใส่น้ำมันปริมาณมากเพราะเมื่อใส่เห็ดลงไปผัด น้ำจากเห็ดจะออกมาเยอะ

เมื่อนำไปปรุงอาหาร เนื้อสัมผัสของเห็ดจะกรุบ ๆ มีความหนึบ ๆ และมีความเด้งเหมือนวุ้นในเวลาเดียวกัน

มาถึงตรงนี้ทราบคำตอบกันแล้วว่า เห็ดจมูกหมูสามารถทานได้ เห็ดมีส่วนประกอบของสารอาหารหลายชนิด โดยเฉพาะโปรตีน การทานเห็ดเลือกให้ถูกวิธีก็จะให้ประโยชน์กับร่างกาย ส่วนใครที่ไม่สันทัดเรื่องของเห็ด และไม่มีความรู้ว่าชนิดไหนทานได้หรือทานไม่ได้ หากไม่มั่นใจไม่ควรที่จะนำมาปรุงอาหาร ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง เพราะเห็ดบางชนิดก็มีพิษทานเข้าไปแล้วอาจส่งผลให้เกิดอาการเวียนหัว อาเจียน จนทำให้เสียชีวิตได้