ด้วยประเทศไทยเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่มีอากาศร้อนชื้น ฤดูกาลที่หลายคนเฝ้ารอคงไม่พ้นฤดูหนาวที่มีอากาศเย็น
สบาย แต่คุณทราบหรือไม่ว่าฤดูกาลที่แสนสบายนี้ เชื้อโรคก็เจริญเติบโตได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะเชื้อไวรัส หลายคนจึงมักจะป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่กันในฤดูหนาว ยังไม่รวมผู้ที่เป็นโรคแพ้อากาศ เมื่ออุณหภูมิเกิดการเปลี่ยนแปลง ก็จะมีอาการไอ จาม น้ำมูกไหลไปตาม ๆ กัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้ฤดูหนาวต้องหลุดลอยไปด้วยอาการนอนซมรักษาตัว เรามาศึกษาหาวิธีการดูแลตัวเอง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมรับลมหนาวไปพร้อม ๆ กัน
ใกล้ฤดูหนาวแล้วเตรียมพร้อมอย่างไรให้ร่างกายแข็งแรง
ฤดูหนาวในประเทศไทยจะสัมผัสได้ชัดเจนถึงลมหนาวจริง ๆ ในปัจจุบันน่าจะเริ่มประมาณช่วงปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นไป บริเวณภาคเหนือและภาคอีสานของไทยก็จะเริ่มมีอากาศที่หนาวเย็นเป็นอันดับแรก ก่อนที่ความเย็นจะแผ่ลงมาปกคลุมในภาคอื่น ๆ สิ่งที่เราควรเตรียมพร้อมเพื่อให้มั่นใจว่าฤดูหนาวมาเมื่อไรต้องได้ออกไปสูดอากาศบนยอดภู ได้ชมทะเลหมอก พร้อมชมดอกไม้สวย ๆ อย่างแน่นอนมีดังต่อไปนี้
การเตรียมชุดกันหนาวนี้ขึ้นอยู่กับสภาพความแข็งแรงของแต่ละคน บางคนอาจมีแค่กางเกงยีนส์กับเสื้อแขนยาวก็พร้อมลุยไปทุกที่ แต่สำหรับบางคนอาจจะต้องมีเสื้อกันหนาว หมวก ผ้าพันคอ และถุงเท้า โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ศีรษะ ปลายมือ และปลายเท้าจะไวต่ออากาศเย็น ควรเตรียมชุดป้องกันความหนาวให้พร้อม เพื่อให้ร่างกายได้อบอุ่นอยู่ตลอดเวลา
เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวอากาศจะมีความแห้ง ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตอยู่บ่อย ๆ บางครั้งเราจับโดนอะไรก็มักจะโดนไฟดูดให้ได้ตกใจเป็นประจำ ดังนั้นเพื่อป้องกันการโดนไฟฟ้าสถิตดูด ควรปกป้องผิวของเราไม่ให้แห้งด้วยการดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้อง และควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย แทนผ้าขนสัตว์และผ้าใยสังเคราะห์ เพราะใยผ้าทั้ง 2 ชนิดนี้จะก่อให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่ายเมื่อเกิดการเสียดสีบ่อย ๆ ส่วนผ้าฝ้ายนอกจากจะสวมใส่สบายแล้วยังป้องกันไฟฟ้าสถิตได้ดี
เพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแรงสำหรับต้อนรับลมหนาว คุณควรฝึกรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดและรสขมให้เป็น เพราะรสชาติทั้ง 2 นี้จะช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นทนทานต่อความหนาวได้ดี อย่างต้มยำ หรือแกงจืดมะระยัดไส้หมู นอกจากคุณจะได้รับความเผ็ดร้อนจากสมุนไพรในเครื่องต้มยำ และความขมจากมะระแล้ว คุณจะได้รับสารแคปไซซิน ที่มีคุณสมบัติช่วยให้อาการหนาวชาที่ปลายมือปลายเท้าบรรเทาขึ้น ที่สำคัญควรรับประทานผลไม้รสเปรี้ยวที่มีวิตามิน C และ A จะช่วยเสริมภูมิต้านทาน ทำให้ร่างกายมีความแข็งแรง
ประการสำคัญก่อนถึงฤดูหนาวคุณควรหมั่นออกกำลังกายเพื่อเสริมให้ร่างกายมีความแข็งแรง ห่างไกลจากไข้หวัด โดยคุณอาจจะเริ่มต้นด้วยการเดินครั้งละ 20 นาที สัปดาห์ละ 3 วัน แล้วค่อย ๆ เพิ่มไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นนิสัย เพียงเท่านี้จะกี่ลมหนาวร่างกายของคุณก็จะอบอุ่นและแข็งแรง เพียงพอที่จะออกไปรับลมบนยอดภู หรือนอนดูดาวท่ามกลางอากาศหนาวเย็นได้อย่างสบาย