อาการเรอบ่อย คลื่นไส้ กลืนลำบาก แสบร้อนหน้าอก แน่นท้องเหมือนอาหารไม่ย่อย อาจเป็นอาการของกรดไหล
ย้อน แนะนำให้รับประทานกล้วยน้ำว้าดิบช่วยแก้อาการกรดไหลย้อนได้
โรคกรดไหลย้อน คืออะไร
โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease) หมายถึง เป็นโรคที่เกิดจากน้ำย่อยในกระเพาะอาหารซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหารในลำคอ หากไม่ทำการรักษาปล่อยไว้เรื้อรัง อาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งหลอดอาหารและเสียชีวิตได้
อาการสำคัญที่พบบ่อยในโรคกรดไหลย้อน ได้แก่
– อาการระคายเคืองบริเวณลำคอ
– รู้สึกเปรี้ยวหรือขมในปากและคอ
– แสบร้อนอกจุกเสียดบริเวณลิ้นปี่กลางหน้าอก
– มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อร่วมด้วย
– ไอเรื้อรังโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน
– เสียงเปลี่ยน เสียงแหบเรื้อรัง
– กลืนติดขัด ฟันผุ มีกลิ่นปาก
– สำลักน้ำลาย หรือหายใจไม่ออกขณะนอนหลับ
กล้วยดิบช่วยเรื่องโรคกรดไหลย้อนได้จริงหรือ
กล้วยน้ำว้าออกผลทุกฤดูกาล กล้วย 1 ผลมีคุณค่าทางสารอาหารมากมาย รวมทั้งสารแทนนิน (Tannin) มีฤทธิ์ฝาดสมานใช้แก้อาการท้องเสีย และสารซิโตอินโดไซส์ (Sitoindoside) ซึ่งมีผลช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนและป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร กินได้ทุกวันจะดีมาก ทั้งยังนำมาทำยาบรรเทาอาการกรดไหลย้อนด้วย 3 วิธีง่าย ๆ ดังนี้
1.เตรียมกะละมังเติมน้ำเปล่าและใส่เกลือเล็กน้อย ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าดิบแช่น้ำเกลือสักพัก แล้วนำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นหั่นเป็นชิ้นบางๆ เรียงบนกระด้งหรือถาด ตากแดดจัด 1-2 วัน จนกล้วยแห้งดี แล้วเก็บในภาชนะมิดชิดพร้อมรับประทาน
2.หั่นกล้วยดิบเป็นชิ้นบาง ๆ ผึ่งแดดให้แห้ง นำไปบดเป็นผงสำหรับชงดื่ม โดยใช้ผงกล้วยน้ำว้า 1-2 ช้อนโต๊ะ ชงกับน้ำร้อน เติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ กินได้ทั้ง เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน
3.เตรียมกล้วยน้ำว้าตามกรรมวิธีข้างต้น บดเป็นผงแล้วปั้นเป็นลูกกลอน เคี้ยวทานก่อนมื้ออาหารทุกมื้อ จะออกฤทธิ์ในกระเพาะอาหารได้ง่ายและเร็ว
หากมีอาการกรดไหลย้อน ทำอย่างไร
เมื่อมีอาการของโรคกรดไหลย้อนควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษา ไม่ควรซื้อยามารับประทานเองเพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาที่ไม่ถูกวิธี นอกจากนี้ควรปรับพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตให้เหมาะสม ดังนี้
– หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
– หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา ชา กาแฟ น้ำผลไม้ที่เพิ่มความเป็นกรด
– หลีกเลี่ยงอาหารเปรี้ยวจัด อาหารมัน อาหารรสเผ็ด
– ควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง และกินผักผลไม้ที่มีใยอาหารให้มากขึ้น
– ไม่ควรล้มตัวลงนอนทันทีระหว่าง 2-3 ชั่วโมง หลังรับประทานอาหาร
– ไม่สวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป
– พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดจนเกินไป และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
โรคกรดไหลย้อนสามารถไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาให้หายได้ อาจใช้เวลา 2-3 เดือนจะอาการดีขึ้นและหายเป็นปกติ แต่การใช้ยาเป็นเพียงการช่วยยับยั้งการหลั่งกรดเท่านั้น ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินชีวิตให้เหมาะสมแล้ว ก็ยังคงเป็นโรคนี้ซ้ำๆ ไปเรื่อย ๆ
การกินกล้วยตอนท้องว่างไม่เกิดอันตรายกับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะหรือกรดไหลย้อน แนะนำให้กินกล้วยน้ำว้า 2 ลูกก่อนมื้ออาหารเช้าและ 2 ลูกก่อนมื้ออาหารเย็น ยิ่งนำมาทำเป็นกล้วยตากแห้งเก็บไว้กินได้นานนับว่าสะดวกดีและบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้ด้วย ไปลองทำกันและรับประทานอย่างพอดี รับรองอร่อยสุขภาพดีแน่นอน