น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมชนิดหนึ่งในประเทศไทย นิยมรับประทานกันทุกเพศทุกวัย เนื่องจากมีรสชาติ
หวาน อร่อย และสดชื่น แต่น้ำอัดลมก็มีโทษต่อสุขภาพเช่นกัน โดยเฉพาะหากดื่มในปริมาณมาก
เมื่อเราดื่มน้ำอัดลมเข้าไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นใน 1 ชั่วโมง มีดังนี้
1. กระเพาะอาหารถูกกระตุ้นให้ผลิตกรดมากขึ้น
น้ำอัดลมมีกรดคาร์บอนิก ซึ่งเป็นกรดอ่อนๆ เมื่อดื่มเข้าไป กรดคาร์บอนิกจะแตกตัวเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะไปกระตุ้นให้กระเพาะอาหารผลิตกรดมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย และท้องผูกได้
2. ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
น้ำอัดลมส่วนใหญ่มีน้ำตาลสูง เมื่อดื่มเข้าไป น้ำตาลในน้ำอัดลมจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ระดับน้ำตาลที่สูงอย่างรวดเร็วอาจทำให้รู้สึกกระสับกระส่าย หงุดหงิด เหนื่อยล้า และอาจเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้
3. ฟันผุ
น้ำอัดลมมีน้ำตาลสูง และกรดคาร์บอนิก ซึ่งทั้งน้ำตาลและกรดคาร์บอนิกเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดฟันผุ ฟันผุอาจทำให้เกิดอาการปวดฟัน เสียวฟัน และอาจทำให้ฟันร่วงได้
4. เสี่ยงต่อโรคอ้วน
น้ำอัดลมมีแคลอรี่สูง หากดื่มน้ำอัดลมในปริมาณมาก อาจทำให้ได้รับแคลอรี่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้น้ำหนักขึ้นและเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้
5. เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
น้ำอัดลมมีโซเดียมสูง ซึ่งโซเดียมเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด หากดื่มน้ำอัดลมในปริมาณมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
คำแนะนำในการดื่มน้ำอัดลม
เพื่อสุขภาพที่ดี ควรดื่มน้ำอัดลมให้น้อยที่สุด และไม่ควรดื่มน้ำอัดลมแทนน้ำเปล่า ควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน โดยประมาณ 2 ลิตรต่อวัน หรือประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน
นอกจากนี้ ควรเลือกดื่มน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาล และควรดื่มน้ำอัดลมเย็นจัด เพื่อช่วยลดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร