เชื้อ HSV- 1

HSV- 1 เป็นเชื้อไวรัสตัวหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ไกลตัวคนเราสักเท่าไร บางทีอาจแฝงในร่างกายของใครหลายคนอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้ การแอบแฝงของไวรัสนี้จะ

มีลักษณะผลุบ ๆ โผล่ ๆ เมื่อไรที่ร่างกายอ่อนแอไวรัสก็จะเผยให้รู้ว่าฉันยังอยู่กับเธอตรงนี้ไม่ได้ไปไหน เรามาตามล่าหาเจ้า HSV- 1 กันดีกว่าว่าเข้ามาอยู่ในร่างกายคนได้อย่างไร และทำให้เกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง

HSV- 1 เป็นไวรัสที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อมทั่วไป หากไปสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อนี้และเผอิญว่าผิวมีรอยถลอกอยู่เชื้อจะสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ ส่วนชื่อ HSV- 1 นั้นเป็นอักษรย่อมาจาก Herpes Simplex Virus และเลข 1 ที่ตามมาก็คือชนิดของไวรัส ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิด คือ 1 และ 2 หากพูดแค่ชื่ออาจไม่คุ้นแต่ถ้าพูดถึงโรคเริมน่าจะเป็นที่รู้จักกันมากกว่า และ HSV- 1 นี้เองที่เป็นตัวการของโรคเริม แต่เป็นเริมที่เกิดกับอวัยวะช่วงบนของร่างกายตั้งแต่เหนือเอวขึ้นไป ส่วนใหญ่ที่พบมากคือ ริมฝีปาก ลำคอ จมูก และตา

เมื่อ HSV- 1 แผลงฤทธิ์อาการจะเป็นอย่างไร

• หากเชื้อ HSV- 1 กำเริบที่ปาก จมูก และตา จะมีตุ่มใส ๆ ขนาดเล็กขึ้นมาเป็นกลุ่ม ทำให้รู้สึกระคายเคือง แสบ และคันอยู่ประมาณ 1 – 2 วัน ตุ่มจะพองขึ้นจนแตก ช่วงนี้ต้องระวังการติดเชื้อจะเป็นแผลอักเสบได้
• เชื้อ HSV- 1 กำเริบในลำคอ อาการเริ่มจากมีแผลในช่องปาก แรก ๆ จะรู้สึกเจ็บคอ จากนั้นเริ่มมีหนองและเป็นแผลกระจายบริเวณคอหอย ต่อมทอนซิล ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม 
• สำหรับบางคนอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เป็นไข้ ปวดตามตัว อ่อนเพลีย บางคนอาจมีไข้สูง ขึ้นอยู่กับการตอบสนองทางร่างกายของแต่ละคน 

รักษาอาการด้วยวิธีใดได้บ้าง

ส่วนใหญ่แล้วอาการพุพองจะหายไปเองในหนึ่งสัปดาห์ แต่ในระหว่างนั้นต้องให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากสิ่งสกปรกซึ่งจะทำให้แผลลุกลามได้ หากว่าใครมีอาการไข้ร่วมด้วยให้รักษาตามอาการ รับประทานยาแก้ไข้และพักผ่อนให้มาก ๆ อาการของโรคนี้สามารถหายได้เอง แต่ที่ไม่ยอมหายไปไหนคือ HSV- 1 จะอยู่ในร่างกายของผู้ที่ได้รับเชื้ออย่างถาวร

HSV- 1 อยู่ในตัวคนเราได้อย่างไร ทำไมจึงฆ่าไม่ตาย

ไวรัสชนิดนี้หลังจากเข้าสู่ร่างกายแล้วจะแตกตัวแยกย้ายกันทำงานและมีกลไกพิเศษในการหลบหลีกภูมิคุ้มกันของร่างกาย ไวรัสส่วนหนึ่งจะไปหลบซ่อนอยู่ที่เซลล์ประสาท จึงเป็นเหตุให้ภูมิคุ้มกันกำจัดได้ไม่หมด เชื้อที่ฝังอยู่จะออกมาทำงานอีกครั้งเมื่อร่างกายอ่อนแอ พักผ่อนน้อย ขาดสารอาหาร ดังนั้นผู้ที่เคยเป็นโรคเริม หลังจากที่หายแล้วก็จะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก 

แม้ไวรัสนี้จะไม่มีอันตรายรุนแรงแต่ก็คงไม่มีใครอยากเป็นเริมบ่อย ๆ ดังนั้นหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อให้ร่างกายมีภูมิที่ดี ด้วยการออกกำลังกายอยู่เสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนอย่างเพียงพอ 3 ข้อพื้นฐานที่ทุกคนทำได้และจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับเชื้อไวรัสไม่ใช่แค่ HSV- 1 เท่านั้น ไวรัสชนิดใด ๆ ก็ทำร้ายเราไม่ได้