สับปะรดคือผลไม้ที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน ให้ความสดชื่นและมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ซึ่งนอกจากจะมีรสชาติเป็นที่ถูกปาก
แล้ว สับปะรดยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้ความสนใจศึกษาถึงประสิทธิผลที่จะใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ต่อไปในอนาคต น่าสนใจไม่น้อยเลยสำหรับผลไม้สีเหลืองนวลชนิดนี้ ดังนั้นเรามาศึกษาเบื้องต้นกันก่อนดีกว่า ว่าสับปะรดที่เรารับประทานกันทุกวันนี้มีประโยชน์อะไรต่อร่างกายบ้าง
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ จากการรับประทานสับปะรด
นอกจากสับปะรดจะเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงอันเป็นประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารแล้ว ยังมีองค์ประกอบของกรดมะนาว (Citric) รวมไปถึงกรดมาลิก (Malic) ที่ให้รสเปรี้ยว อีกทั้งยังมีวิตามินซีที่อยู่ในรูปของกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic) ที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของระบบทั่วร่างกาย
แต่สารสำคัญที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้ความสนใจในผลไม้ชนิดนี้คือ เอนไซม์ชนิดบรอมีเลน (Bromelain) ที่มีฤทธิ์ช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง สามารถต้านทานการอักเสบภายในได้ และยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ประเภทเนื้องอก รวมไปถึงช่วยชะลอการแข็งตัวของเลือดได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์อื่น ๆ ที่ทำให้สับปะรดเป็นผลไม้ที่รับประทานได้ทุกวันดังนี้
โดยปริมาณการรับประทานสับปะรดต่อวันคือ รับประทานเนื้อประมาณ 1 ถ้วยตวง จะช่วยให้ร่างกายได้รับคุณประโยชน์ดังที่กล่าวไป แต่ถ้าหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้เกิดอาการปวดท้อง และด้วยความเป็นกรดของเนื้อสับปะรด หลังจากรับประทานแล้วควรแปรงฟันและทำความสะอาดช่องปากให้เรียบร้อย จึงจะได้รับสรรพคุณในการดูแลช่องปากจากสับปะรดได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้จะให้ผลในทางกลับกันคือ กรดจะทำให้ฟันผุได้