การดื่มน้ำอัดลมมากเกินไป หรือ บ่อยๆ มีผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง?

การดื่มน้ำอัดลมมากเกินไป หรือ บ่อยๆ มีผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

ต้องยอมรับเลยว่าน้ำอัดลมคือเครื่องดื่มที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นได้ทันทีที่ดื่ม ยิ่งน้ำอัดลมแช่เย็นจัด ๆ นำมาเทใส่น้ำแข็งป่น เวลาดื่มก็รับประทาน

เอาน้ำแข็งป่นเข้าไปด้วย รสชาติหวานกับน้ำแข็งกรอบ ๆ ยิ่งทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า จึงไม่แปลกใจเลยว่า ต่อให้มีผลวิจัยเกี่ยวกับผลเสียของน้ำอัดลมมากแค่ไหน ผู้คนก็ยังเลือกที่จะดื่มน้ำอัดลมยามที่ร่างกายต้องการรีเฟรช แล้วถ้าเราเลือกที่จะดื่มเพื่อความสดชื่นทุกวันล่ะ ร่างกายเราจะเป็นอย่างไร เราไปดูการทำงานของร่างกายกันดีกว่า

คนกำลังทานอาหารและดื่มน้ำอัดลม

3 ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกับร่างกายภายใน เมื่อเลือกดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ

  หากเราบริโภคอะไรมากเกินไปย่อมส่งผลเสียต่อร่างกาย ลองเทียบง่าย ๆ กับผู้ที่รับประทานผักเป็นชีวิตจิตใจ หากไม่ดูแลเรื่องการดื่มน้ำสะอาดให้เหมาะสม ไฟเบอร์ของผักก็ทำให้ลำไส้อุดตันได้เช่นกัน แล้วน้ำอัดลมที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ล่ะ มีผลอะไรกับร่างกายของเรา ใครเป็นสายหวานรักความซ่าเตรียมจดเลย เกิดอะไรขึ้นภายในร่างกายของเราบ้างหากดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ?

  1. ร่างกายหลั่งสารฟอสฟอริกมากไป ดื่มได้ไม่อั้น แต่ฟันผุแน่นอน

ความจริงก็คือในน้ำอัดลมมีน้ำตาลอยู่ประมาณ 10 ช้อนโต๊ะต่อ 1 กระป๋อง แน่นอนว่าเกินมาตรฐานของทุกหน่วยงานที่กำหนด ซึ่งหากร่างกายของเรารับน้ำตาลมากเกินไป จะทำให้เกิดอาการอาเจียนออกมาทันที แต่ความพิเศษของร่างกายคือ สามารถผลิตสารฟอสฟอริกที่ทำหน้าที่ลดความหวานออกมาได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงดื่มน้ำอัดลมได้ต่อเนื่อง และเมื่อเราดื่มน้ำอัดลมได้ไม่จำกัด ปริมาณน้ำตาลที่สูงขึ้นจะทำให้ฟันผุในที่สุด

  1. ร่างกายอ้วนขึ้น เพราะปริมาณน้ำตาลในเลือดสูง

การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ตับจึงต้องผลิตอินซูลินออกมาเพื่อช่วยย่อยน้ำตาลเหล่านี้ และเปลี่ยนรูปแบบมันใหม่ ให้กลายเป็นไขมันและสะสมไว้เป็นพลังงานตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หรือที่เราเข้าใจได้ง่าย ๆ คือ “อ้วนขึ้น” นั่นเอง

  1. ตื่นเต้น ตื่นตัว นอนไม่หลับ เพราะคาเฟอีน

ในน้ำอัดลมไม่ได้มีเพียงน้ำตาลไฮฟรุกโตสคอร์นไซรัปเท่านั้น แต่ยังมีคาเฟอีนผสมอยู่ด้วย ซึ่งตอบโจทย์ได้ว่า ทำไมน้ำอัดลมจึงทำให้ร่างกายรีเฟรชได้ดี นั่นเป็นเพราะคาเฟอีนจะทำให้ม่านตาดำขยาย ความดันเลือดจะสูงขึ้น ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า สมองถูกสั่งให้ไม่ง่วง อีกทั้งยังหลั่งสารโดพามีนซึ่งเป็นสารแห่งความสุขด้วย ซึ่งกระบวนการแห่งการตื่นตัวนี้ ทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายของเราทำงานหนักมาก เพราะปริมาณน้ำตาล เกลือ และคาเฟอีนที่มากเกินไป ทำให้ร่างกายต้องขับออกทางปัสสาวะ เราจึงสูญเสียแคลเซียม สังกะสี แมกนีเซียม และน้ำ ผลที่ตามมาคือภาวะโรคกระดูกต่าง ๆ ที่มากกว่าแค่ฟันผุ

บุคคลกำลังดื่มน้ำอัดลม

สรุปภาวะทั้งหมดที่ร่างกายเราต้องเจอ จะทำให้เราได้แพ็กเกจโรคประจำตัวใหม่ คือ โรคอ้วน, โรคเบาหวาน, โรคเกี่ยวกับกระดูก, โรคความดัน และโรคหัวใจ ซึ่งวงจรการดื่มน้ำอัดลมนี้หากใครได้ดื่มเป็นประจำแล้ว จะทราบได้ทันทีว่าเลิกได้ยาก เพราะเมื่อร่างกายเราจัดการกับน้ำตาล เกลือ และคาเฟอีนได้หมดแล้ว เราจะรู้สึกอ่อนเพลีย ง่วงนอน ไม่สดชื่น ทำให้เราอยากดื่มน้ำอัดลมอีก และร่างกายก็ต้องทำงานแบบเดิมซ้ำ ๆ อีก จนก่อให้เกิดโรคที่ยากต่อการรักษาในที่สุด